ทองปรับขึ้นเล็กน้อย แนวโน้มแกว่างตัวในกรอบ ในประเทศบาทอ่อนทองทรงตัว
โดยราคาทองคำเช้านี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปรับลดลงอย่างหนัก เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมถึงตลาดมีความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนในเดือนธันวาคม หลังจากข้อมูลการจ้างงานเดือนตุลาคมของสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด
ทองคำร่วงหนักตลอด 7 วันที่ผ่านมาและปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ทองคำถูกลดความน่าดึงดูด เนื่องจากเมื่อดอลลาร์แข็งค่าทองคำจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ การที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนตุลาคมของสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด ได้ส่งผลให้นักลงทุนต่างเชื่อมั่นว่า เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในเดือนธันวาคม
เมื่อช่วงดึกของคืนวันศุกร์ ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมของปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2008
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดรวมถึง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวในอัตราที่เพียงพอต่อการสร้างความคืบหน้าในตลาดแรงงาน และช่วยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง และหากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับให้การสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว และจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด ก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม
ทางด้านราคาทองในประเทศ สัปดาห์ที่ผ่านมาทองในประเทศร่วงลงรวม 750 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วงลงของทองคำตลาดโลก ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศวันจันทร์ต้นสัปดาห์ ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาประกาศเมื่อวันเสาร์ โดยสมาคมค้าทองคำ ขณะที่เงินบาทเช้านี้ยังอ่อนค่าลงตามทิศทางค่าเงินภูมิภาคหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด
แนวโน้มราคาทองทางเทคนิค บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด มองว่า หลังจากที่ราคาทองคำปรับลงแรงตอบรับคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม คาดว่าแรงเทขายจะเริ่มลดน้อยลงและแนวโน้มราคาทองคำจะเริ่มแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,077 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่เป็นจุดต่ำสุดที่ทำไว้ในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,100 และ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง