ทองปรับลดลงเพื่อพักฐาน หลังม.ค.เดือนเดียวขึ้น 8% ในประเทศบาทแข็งวานนี้ลง 200 เช้านี้ลงอีก 50
โดยราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากเดือนมกราคมเดือนแรกของปี 58 ทองคำพุ่งทะยานขึ้นกว่า 8% อย่างไรก็ตามรายงานเศรษฐฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวังของสหรัฐ ส่งผลให้ทองคำปรับลดลงได้ไม่มาก
นักลงทุนเทขายทำกำไรทองคำในวันทำการวันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่เดือนมกราคมที่ผ่านมาเดือนเดียว ทองคำพุ่งขึ้นกว่า 8% แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอในภาคการผลิตของสหรัฐ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางกลุ่มกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 53.5 ในเดือนมกคาคม ซึ่งได้ลดลงจากระดับ 55.1 ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ขณะที่ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐประจำเดือนมกราคมอยู่ที่ 53.9 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันเดือนธันวาคม 57
ส่วนรายงานการถือครองทองคำของ กองทุน SPDR Gold Trust เมื่อวานนี้กองทุนเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำอีกราว 8.36 ตัน ทำให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำที่ระดับ 766.73 ตัน
ขณะเดียวกันในสัปดาห์นี้ ประเด็นข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนเฝ้ารอดูนั้นอยู่ที่ตลาดแรงงานของสหรัฐเป็นหลัก โดยเฉพาะข้อมูลด้านตลาดแรงงาน โดยในวันพุธ สหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ของ ADP ส่วนในวันศุกร์จะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน ซึ่งคาดว่ารายงานภาคแรงงานจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำให้ผันผวนได้
ส่วนคืนนี้รายงานเศรษฐกิจจากสหรัฐจะมีเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานประจำเดือนธันวาคม และทางฝั่งยูโรโซน ยังมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเจรจาลดหนี้ของกรีซกับสหภาพยุโรป ซึ่งดูเหมือนว่าหากการเจรจาไม่บรรลุข้อตกลงก็อาจจะทำทองคำมีแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอยู่
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองคำเคลื่อนไหว 4 ครั้งและเป็นการปรับลดลงทั้ง 4 ครั้ง รวม 200 บาท โดยเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงบวกกับการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่องระดับ 32.52 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวโน้มเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าขึ้นอีก คาดวันนี้เคลื่อนไหวระดับ 32.45-32.60 บาทต่อดอลลาร์ จึงส่งผลลบต่อราคาทองในประเทศให้ปรับลดลงมากกว่าปกติ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,265-1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวกลับ ส่วนภาพเทคนิคของราคาทองจึงยังไม่ต่างไปจากเมื่อวานมากนัก โดยวันนี้ราคาทองคำแนวรับบริเวณ 1,265-1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งยังเป็นระดับแนวรับสำหรับเปิดสถานะซื้อเก็งกำไร โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง