ทองปรับลดลง ระยะนี้คาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ในประเทศบาทแข็งทองลง
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงเป็นวันแรกหลังจากตลาดเปิดทำการหลังจากหยุดวันคริสต์มาส โดยบรรยากาศการซื้อขายของตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงไปกว่า 3% นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับปัจจัยลบเพิ่มเติมที่ว่า จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
ตลาดทองคำและตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า จีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันโดยในเดือนพฤศิจกายนจีนนำเข้าทองคำสุทธิจากฮ่องกงอยู่ที่ 66.8 ตัน และลดลงต่อจากเดือนตุลาคมที่นำเข้า 68.2 ตัน
ทั้งนี้ ความต้องการทองคำอ่อนแรงลงนับตั้งแต่มีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย โดยเฟดได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเมื่อการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในเดือนธันวาคม พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอดปีหน้า ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
นอกจากนี้ ทองคำตลาดนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ โดยเมื่อคืนนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.29 ดอลลาร์ หรือ 3.4% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานว่า อิหร่านเตรียมส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ จะมีการรายงานยอดดุลการค้าเดือนพฤศิจกายน ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองใหญ่เดือนตุลาคม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ของตลาดคาดการณ์ส่วนใหญ่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวรวม 2 ครั้งโดยเป็นการปรับลดลงและปรับขึ้นชดเชยราคากัน เมื่อปิดตลาดยังพบว่าราคาซื้อขายทองคำยังเป็นราคาซื้อขายเฉลี่ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เปิดตลาดเช้าวันนี้ ราคาลดลง 50 บาท โดยเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามเช้านี้พบว่า ทองคำเริ่มดีดตัวขึ้น ซึ่งแนวโน้มทองคำระยะนี้คงจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆ และตลาดเงินตลาดทุนส่วนใหญ่ต่างทะยอยหยุดตามช่วงเทศกาลคริสต์มาส และต่อเนื่องปีใหม่
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในวันนี้คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,060-1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,060และ 1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวต้านสำคัญที่ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่คาดว่าจะเป็นแนวต้านแข็งแกร่งในระยะสั้น แต่ถ้าราคาทองคำทะลุผ่านแนวต้าน 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:13 น. | (ครั้งที่ 6) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง