ทองพุ่งขานรับรายงานเศรษฐกิจโลก สหรัฐอ่อนแอ จีนแข็งแกร่ง ในประเทศวันนี้บวกเพิ่มอีก 50 บาท
โดยราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างตัวเลขคนว่างงานออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 12,000 รายสู่ระดับ 350,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ระดับ 340,000 ราย เป็นเหตุให้เงินดอลลาร์กลับอ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากการคาดการณ์ว่าในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC) ในสัปดาห์หน้า(29-30) เฟดจะยังคงเดินหน้านโยบายทางเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
อนึ่ง ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีภาคการผลิต ประจำเดือนตุลาคมของจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวเนื่องจากจีนเป็นประเทศนำเข้าทองคำมากที่สุดของโลก ทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวได้ดีและจะช่วยหนุนความต้องการทองคำให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากคิทโก้ดอทคอม(kitco.com) ระบุว่า ดัชนีภาคผลิตของจีนที่แข็งแกร่งนั้นอาจจะทำให้รัฐบาลจีนปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพื่อลดความร้อนแรง ซึ่งอาจจะส่งผลกดดันให้ความต้องการทองคำลดลง
ส่วนสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ภาพรวมออกมาอ่อนแอ หลังจากหน่วยงานของรัฐบาลบางแห่งปิดตัวลง และถึงแม้ว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงก็ตามแต่ยังคงน้อยกว่าที่คาดไว้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนส่วนมากเชื่อว่าเฟดจะไม่ลดมาตราการ QE ในเวลานี้
รายงานจาก กองทุน SPDR Gold Trust ว่า ได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงอีก 1.8 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 876.52 ตัน
ส่วนทองคำในประเทศค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าลงแต่ภาพรวมยังคงทรงตัว จึงยังไม่ส่งผลเคลื่อนไหวต่อราคาทองในประเทศมากนัก รวมทั้งปัญหาทางการเมืองซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าน่าจะเป็นปัญหาแค่ในระยะสั้น โดยภาพรวมทองคำในประเทศยังคงเคลื่อนไหวตามทิศทางทองคำตลาดโลกที่เคลื่อนไหวผ่านรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ และมหาอำนาจอย่างจีน ซึ่งเช้านี้เปิดตลาดทองคำ ราคาทองปรับเพิ่มขึ้น 50บาท ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 350 บาท ซึ่งภาพรวมถือว่าทองคำในประเทศขึ้นมาตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม จนถึงขณะนี้รวมแล้วทองคำในประเทศปรับขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมแล้ว 1,150 บาทแล้ว
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคซึ่งค่ำวานนี้ เริ่มมีแรงขายกลับออกมาจนราคาทองอ่อนตัวลงจากแนวต้านบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อ หากในระหว่างวันราคาปรับฐานลงมายังแนวรับบริเวณ 1,330-1,335 และ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา และราคาก็จะเริ่มดีดตัวขึ้นได้อีกครั้ง และกรณีที่ราคาผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ คาดว่าราคาทองจะปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,365 และ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป.
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:35 น. | (ครั้งที่ 8) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง