ทองพุ่งจากแรงหนุนความไม่สงบในตะวันออกกลาง ในประเทศบาทอ่อนทองพุ่ง
โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือแนวต้าน 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากกลับมาเปิดทำการหยุดปีใหม่เมื่อวานนี้ โดยทองคำได้รับปัจจัยบวกในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง ประกอบกับการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นทั่วโลก
ทองคำกลับมาได้รับความสนใจในยามที่เกิดสถานการณ์ความไม่แน่นอนในทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำกันอย่างคึกคัก หลังจากตลาดเงินตลาดทุนเปิดทำการในวันแรกหลังหยุดปีใหม่ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังกดดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงหุ้น และหันเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสองมหาอำนาจในตะวันออกกลาง หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียและประเทศพันธมิตรได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านได้ก่อเหตุโจมตีสถานทูตและสถานกงสุลของซาอุดิอาระเบียในอิหร่าน เพื่อตอบโต้การที่ซาอุดิอาระเบียได้ประหารชีวิตนักโทษคดีก่อการร้าย รวมถึงนักบวชนิกายชีอะห์
นอกจากนี้ รายงานเศรษฐกิจตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนธันวาคม ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันสู่ระดับ 48.2 จากระดับ 48.6 ในเดือนพฤศจิกายน ได้ส่งผลให้เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นของจีนผันผวนอย่างหนัก และสุดท้ายตลาดหุ้นจีนได้ปิดทำการซื้อขายตลอดทั้งวัน
ขณะที่รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อวานนี้ส่วนใหญ่ออกมาอ่อนแอ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนธันวาคม ของสหรัฐลดลงที่ระดับ 51.2 จากระดับ 52.8 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนธันวาคม ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.2 ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 49.1
ส่วนในคืนวันนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งคาดว่านักลงทุนจะรอติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐประจำเดือนธันวาคม ในวันพุธและวันศุกร์ โดยตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานทั้งสองตัวจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์ จะเป็นข้อมูลสำคัญที่ตลาดให้ความสำคัญเพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยเฉพาะช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศได้รับอานิสงส์จากการพุ่งขึ้นของทองคำตลาดโลก ทำให้ทองปรับขึ้นรวม 150 บาท ประกอบกับทิศทางการอ่อนค่าของเงินบาทช่วยเป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาทองในประเทศ ส่วนเปิดตลาดทองเช้านี้ปรับขึ้นอีก 100 บาท โดยแนวโน้มยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ จากปัจจัยบวกความไม่สงบในตะวันออกกลาง และ การอ่อนค่าของเงินบาทที่ยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องในวันนี้
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าววว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดทรงตัวในระดับที่สูงจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุน โดยราคาทองคำมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,083 และ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับระยะสั้นที่ 1,068 และ 1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:13 น. | (ครั้งที่ 6) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง