ทองพุ่งสูงสุดรอบ 8 เดือน หลังหุ้นร่วงดอลลาร์อ่อน ในประเทศขึ้น350
โดยราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นกว่า 40 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องมาจากนักลงทุนแห่กลับเข้าลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกันอย่างคึกคัก หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
ทองคำทะยานขึ้นแรงและเป็นไปอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่ระดับ 1,197.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์และทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้
โดยเมื่อวานนี้การซื้อขายในตลาดทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยเป็นไปอย่างคึกคักในยามที่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นร่างลงอย่างหนัก โดยตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่าการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียและเวเนซุเอลานั้น ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการใช้มาตรการลดกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะส่งผลให้ทองคำซึ่งซื้อขายกันในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงอัตโนมัติและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ด้านกองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก ได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่องล่าสุดกองทุนเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 5.06 ตัน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุน SPDR เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำ 29 ตัน สะท้อนให้เห็นความต้องการทองคำจากนักลงทุนสหรัฐและยุโรปเพื่อต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
ขณะที่ประเด็นเศรษฐกิจที่นักลงทุนเฝ้าติดตามในสัปดาห์นี้อยู่ที่ การแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการทางการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธ และต่อเนื่องที่จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาในวันพฤหัสบดี โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างจับตาดูว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าออกไปหรือไม่ หลังจากที่เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งหากมีการส่งสัญญานการเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปจะส่งผลเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้ต่อ
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้แม้ว่าจะพบการเคลื่อนไหว 3 ครั้งแต่เป็นการปรับขึ้นและลงชดเชยราคากัน ขณะที่เปิดตลาดเช้าวันอังคาร ทองพุ่งพรวดเดียว 350 บาท เป็นผลทำให้ ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณราคาขายอยู่เหนือระดับ 20,000 บาท โดยทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 20,050 บาท รับซื้ออยู่ที่ 19,950 บาท ส่วนรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 20,450 บาท และรับซื้อยู่ที่ 19,662.52 บาท ทั้งนี้การปรับขึ้นของราคาทองในประเทศจะปรับขึ้นได้ไม่มากเท่าตลาดโลก เนื่องจากเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวแข็งค่าตามทิศทางตลาดภูมิภาค โดยแนวโน้มยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง
บริษัท ฮั่่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคมีแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่ระวังแรงเทขายทำกำไรในระยะสั้น แต่คาดว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำมีกรอบที่จำกัด ทั้งนี้ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,180 และ 1,165 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,200 และ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,100.00 | 44,200.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,312.12 | 44,700.00 |
วันนี้ 500 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 14:11 น. | (ครั้งที่ 11) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง