ทองพุ่งหลังเงินดอลลาร์อ่อนเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ในประเทศบาทแข็งทองขึ้น
โดยราคาทองคำพุ่งขึ้น โดยเช้านี้ทะยานขึ้นแตะที่ระดับ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้จากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ทองคำนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะส่งผลให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายในเดือนมกราคม ลดลง 2.5% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 106 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาว, สต็อกบ้านที่มีอยู่จำกัด และราคาบ้านที่พุ่งสูง ขณะเดียวกันข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเขตชิคาโกเดือนกุมภาพันธ์ หดตัวลงสู่ระดับ 47.6 ซึ่งได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวลง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 54.0
ทั้งนี้ จากข้อมูลดัชนีPMI ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต ขณะที่ดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคการผลิต
ส่วนรายงานสำคัญในทางจิตวิทยาที่ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการปรับเพิ่มขึ้นของทองคำจาก กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก ยังเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานกองทุนซื้อทองคำเพิ่มเติมอีก 14.87 ตัน รวมปริมาณการซื้อทองคำของกองทุน SPDR ทั้งปีรวมทั้งสิ้นแล้ว 134 ตัน
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ จะมีการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนกุมภาพันธ์ของจีน ยุโรปและสหรัฐ โดยเฉพาะจีนจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและดัชนี PMI ภาคบริการในช่วงเช้า ซึ่งหากตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ จะส่งผลต่อตลาดหุ้นเอเชียและส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังราคาทองคำ
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองเคลื่อนไหวโดยเป็นการปรับขึ้นทั้ง 2 ครั้งรวม 100 บาท ต่อเนื่องเปิดตลาดเช้าวันอังคารต้นเดือนมีนาคม ทองพุ่งพรวดเดียว 200 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นของทองในประเทศ อย่างไรก็ตาม ทองในประเทศขาดแรงหนุนสำคัญเมื่อพบเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 35.65-35.67 บาทต่อดอลลาร์ โดยเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าตามภูมิภาค หลังทางการจีนมีการปรับค่าเงินหยวน
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดจะปรับขึ้นต่อได้ต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,250 และ 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,225 และ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง