ทองพุ่ง! หลังเฟดคงดอกเบี้ย ในประเทศบาทแข็งมากทองขึ้นได้น้อย
โดยราคาทองนิวยอร์คปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) แต่หลังการประชุมราคาทองคำปรับขึ้นแรง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังเฟด ยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำปิดทำการแล้ว
แต่หลังการประชุมเฟดราคาทองคำปรับขึ้นแรง เนื่องมาจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ในรอบ 1 เดือน หลังเฟดยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตรึงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันเฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง ท่ามกลางการขยายตัวที่อ่อนแอในต่างประเทศ และตลาดการเงินที่ผันผวน
ขณะที่รายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก ได้ทำการเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 2.97 ตัน
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้น รวมถึงรายงาน ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดเฟียประจำเดือนมีนาคม ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังมีรายงาน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนกมุภาพันธ์ ของ Conference Board ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ซ่า หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำ
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวเปิดตลาดลดลงเพียงครั้งเดียว 50 บาท ขณะที่เปิดตลาดเช้าวันพฤหัสบดี ทองปรับขึ้น 200 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีจะเห็นว่า ทองคำในประเทศปรับขึ้นได้น้อยกว่าทองคำตลาดโลก เนื่องมาจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นระดับ 34.84 บาทต่ดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับขึ้นได้ต่อ แต่อาจเริ่มมีกรอบจำกัดจากที่ราคาทองคำปรับขึ้นแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมีแนวต้านที่ 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่เป็นจุดสูงสุดของราคาทองคำที่ทำไว้ในสัปดาห์ก่อน ระวังแรงเทขายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อราคาทองคำปรับขึ้นเข้าใกล้แนวต้านดังกล่าว ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,250 และ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง