ทองฟื้นตัวขึ้น จากกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ในประเทศเช้านี้บาทยังอ่อน ทองขึ้น 50
โดย
ราคาทองคำดีดตัวขึ้น หลังจากร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องมาจากข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ อย่างไรก็ตามต้นสัปดาห์ราคาทองได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้หนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทองคำดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น ยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นักลงทุนต่างมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่มีการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในเดือนที่แล้ว โดย สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การส่งออกของจีนในเดือนพฤศจิกายน ขยายตัว 4.7% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 2.1166 แสนล้านดอลลาร์ โดยอัตราการขยายตัวดังกล่าวชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมที่ระดับ 11.6% และเดือนกันยายนที่ระดับ 15.3% ส่วนการนำเข้าหดตัวลง 6.7% สู่ระดับ 1.5719 แสนล้านดอลลาร์
ซึ่งจาก ข้อมูลการค้าที่อ่อนแรงของจีนได้ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นปัจจัยที่บวกที่ช่วยหนุนอุปสงค์ทองคำในตลาดให้คึกคักมากยิ่งขึ้นในช่วงปลายปี
ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 2557 หดตัวลง 1.9% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่ประมาณการไว้เบื้องต้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ว่าตัวเลขจีดีพีจะปรับตัวลง 1.6% ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวได้ตอกย้ำถึงภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยของญี่ปุ่นอย่างมาก
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศทั้งวันปรับขึ้น 50 บาท ส่วนเงินบาทยังอ่อนค่าเหนือระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งส่งผลเป็นแรงหนุนให้แก่ทองคำในประเทศปรับขึ้นได้มากกว่าปกติ ส่วนเปิดตลาดทองคำในประเทศเช้าวันนี้พบว่าปรับขึ้นอีก 50 บาท ส่วนแนวโน้มทองคำในประเทศวันนี้ จะยังคงเคลื่อนไหวทรงตัวตามทองคำตลาดโลก เนื่องจากจะขาดแรงหนุนจากเงินบาทที่เช้านี้มีทิศทางแข็งค่าขึ้น
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดิม โดยที่เคลื่อนไหวในกรอบ 1,190–1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคำไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนักแม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 62.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ราคาทองคำของตลาดโลกค่อนข้างทรงตัวและไม่ค่อยตอบสนองต่อสภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดเท่าไหร่นัก ในขณะที่ตลาดโลกมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการส่งสัญญาณของทางยุโรป จีน และญี่ปุ่นมากกว่า
ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางออกด้านข้าง(Sideways) ระยะสั้น โดยเคลื่อนอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,190-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังคงรอปัจจัยในการที่จะมาผลักดันทิศทางราคาทองคำ โดยทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ แนวต้านสำคัญ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวโน้มทองคํายังเคลื่อนไหวในระดับสูงอย่างแข็งแกร่งจากแรงซื้อ
ความไม่แน่นอนเฟดลดดอกเบี้ยสกัดแรงซื้อทองคําปรับขึ้นได้ไม่มาก
ดอลลาร์แข็งฉุดทองคําร่วง จับตาจ้างงานสหรัฐประเมินดอกเบี้ยเฟด
ดอลลาร์แข็งค่ากดดันทองคํา คาดแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบระดับสูง
ทองคําตลาดโลกเคลื่อนไหวในกรอบทางเทคนิค รอปัจจัยชี้นำใหม่
ความไม่แน่นอนการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด-ดอลลาร์แข็งกดดันทองคํา
ทองคําฟื้น แต่ต้องจับตาหลังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนผ่อนคลายลง
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 61,150.00 | 61,250.00 |
| ทองรูปพรรณ | 59,927.48 | 62,050.00 |
| วันนี้ -150 | 50 | |
| 07 พฤศจิกายน 2568 | เวลา 11:26 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
ราคาทองคําวันนี้
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ