ทองฟื้น หลังดอลลาร์อ่อน หุ้นร่วง ในประเทศบาทแข็งทองขึ้นน้อย
โดย
ราคาทองคำพุ่งขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากผลประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยและยังไม่มีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินใดๆ เพิ่มเติม รวมถึงการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก
ผลการประชุมของอีซีบีเมื่อช่วงค่ำวานนี้ออกมาตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่ประเมินไว้ โดยอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และได้คงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน และนอกจากนี้การแถลงการณ์หลังการประชุมของประธานอีซีบีก็ยังไม่มีการส่งสัญญานมาตรการผ่อนคลายทางการเงินใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตราสารอื่นๆ ค่อนข้างน้อย
นอกจากนี้ นักลงทุนโยกเม็ดเงินกลับเข้ามาลงทุนในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทอินเทล คอร์ป พร้อมกับระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
โดยในสัปดาห์หน้าประเด็นการประชุมของเฟด และบีโอเจ ในช่วงปลายสัปดาห์ คาดว่าจะส่งผลให้การเคลื่อนไหวของทองคำเกิดความผันผวน จากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ส่งสัญญานก่อนหน้านี้ต่อความเป็นไปได้ที่จะนำมาตรการผ่อนคลายทางการเงินมาใช้ นักลงทุนจึงมีมุมมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐคงเป็นไปได้ยาก หากการประชุมครั้งนี้มีสัญญาณตามที่นักลงทุนประเมิน ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองฟื้นตัวขึ้นต่อไป
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดทองวันศุกร์ราคาปรับขึ้น 100 บาท หลังจากเมื่อวานนี้ราคาปรับลดลง 100 บาท เนื่องมาจากทองคำโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากการร่วงลงของตลาดหุ้นประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า อย่างไรก็ดี ทองในประเทศขาดแรงสนับสนุนหลังจากเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น โดยเช้านี้เงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ มาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 34.95 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ทองในประเทศปรับขึ้นได้ไม่มาก
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำฟื้นตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคในระยะสั้นเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว และหากในวันนี้ราคาทองคำสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,335-1,336 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวันพฤหัสได้ ก็จะเป็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป ส่วนการอ่อนตัวลงในระหว่างวันมีแนวรับสำหรับการฟื้นตัวกลับอยู่ที่บริเวณ 1,320 และ 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนทวีความรุนแรง หนุนแรงซื้อทองคําพุ่งขึ้น
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายทางเทคนิคฉุดทองคําตลาดโลก-ไทยร่วงต่อเนื่อง
แรงขายฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,300.00 | 50,400.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,391.28 | 51,200.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
10 เมษายน 2568 | เวลา 16:48 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง