ทองร่วงจากแรงขาย ดอลลาร์แข็ง ในประเทศบาทอ่อนเล็กน้อยทองคงที่
โดยราคาทองนิวยอร์คปิดตลาดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรประกอบกับการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ จากแรงหนุนของราคาน้ำมัน ยังกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ภายหลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาแอตแลนตา และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเมษายนนี้ และส่งผลทำให้ราคาทองคำปรับลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น 21.57 จุด เนื่องจากเพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้น 1.2% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง 10,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.068 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดของน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำในยามที่มีปัจจัยกดดันตลาด จากกองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก ที่ยังเดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ล่าสุดเมื่อวานนี้ กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มเติมอีก 2.67 ตัน ทำให้ในเฉพาะปีนี้กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำทั้งสิ้นประมาณ 179 ตัน
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ จะมีการรายงานตัวเลข ดัชนี PMIภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น รวมถึงรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจประจำเดือนมีนาคม ของยูโรโซน ขณะที่สหรัฐจะมีการรายงานตัวเลขดัชนี PMIภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมีนาคม
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวรวม 4 ครั้งโดยเปิดตลาดราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาเปิดตลาดในวันศุกร์และหลังจากนั้นอีก 3 ครั้งราคาปรับลดลง 3 ครั้งรวม 150 บาท เนื่องมาจากการปรับตัวลดลงของทองคำตลาดโลก ขณะที่เปิดตลาดทองเช้าวันอังคารราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ ส่วนค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยนักบริหารการเงิน มองว่าแนวโน้มเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าตามค่าเงินภูมิภาค หลังจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากแตะแนวรับที่ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่การฟื้นตัวคาดมีกรอบที่จำกัด โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ถ้าราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีแนวรับหลักที่ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง