ทองร่วงลง!! เท่าวันศุกร์ หลังดอลลาร์แข็งกดดัน ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนหนุน ทองลงเพียง 50
โดย
ราคาทองคำร่วงลงกลับสู่ระดับเดียวกับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แม้มีปัจจัยหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของกรีซ และความขัดแย้งในยูเครน
ทองคำตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนทีผ่านมาร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์ หลังจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ทั้งนี้การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์จะส่งผลให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กกว่า 139.55 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ดึงดูดให้นักลงทุนหันกลับเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น และเทขายทองคำ หลังจากตลาดหุ้นได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงการประนอมหนี้สินกับกลุ่มเจ้าหนี้ ก่อนที่มาตรการช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซฉบับปัจจุบันของสหภาพยุโรป(EU) จะหมดอายุลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจับตาประเด็นการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซ ซึ่งจะมีการประชุมวาระพิเศษของรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนในวันนี้(11 ก.พ.) โดยที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินต่อกรีซ ขณะที่เตรียมการสำหรับผู้นำของอียูที่จะเจรจาในเรื่องดังกล่าวในวันพรุ่งนี้(12 ก.พ.)
ส่วน รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญจากจีน อย่าง ดัชนีราคาผู้ผลิตได้ปรับตัวลดลงและอัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคมของจีนร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกดดันต่อราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง
ด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองคำในประเทศเคลื่อนไหว 3 ครั้ง โดยเปิดตลาดคงที่ และจากนั้นปรับขึ้นและลงอย่างและ 1 ครั้งและเป็นการปรับชดเชยราคากัน ส่วนเปิดตลาดทองคำในประเทศเช้าวันนี้พบว่า ทองลง 50 บาท ซึ่งส่งผลมาจากทองคำต่างประเทศปรับตัวลดลง ขณะที่ค่าเงินบาท ปัจจัยส่งผลต่อราคาทองในประเทศ เช้านี้พบการอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเมื่อวาน ซึ่งส่งผลให้ทองในประเทศลดลงได้น้อยกว่าปกติ
บริษัท ฮั่่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุและยืนเหนือแนวต้านที่ 1,245-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ในระยะสั้นราคาทองคำมีทิศทางอ่อนตัวลงได้ ทั้งนี้ราคาทองคำยังมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,228 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดจากแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,215 และ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,245-1,250 และ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ โดยแนะนำนักลงทุนระยะสั้นควรขายทำกำไรที่แนวต้านระดับ 1,245-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวโน้มทองคํายังเคลื่อนไหวในระดับสูงอย่างแข็งแกร่งจากแรงซื้อ
ความไม่แน่นอนเฟดลดดอกเบี้ยสกัดแรงซื้อทองคําปรับขึ้นได้ไม่มาก
ดอลลาร์แข็งฉุดทองคําร่วง จับตาจ้างงานสหรัฐประเมินดอกเบี้ยเฟด
ดอลลาร์แข็งค่ากดดันทองคํา คาดแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบระดับสูง
ทองคําตลาดโลกเคลื่อนไหวในกรอบทางเทคนิค รอปัจจัยชี้นำใหม่
ความไม่แน่นอนการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด-ดอลลาร์แข็งกดดันทองคํา
ทองคําฟื้น แต่ต้องจับตาหลังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนผ่อนคลายลง
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 61,150.00 | 61,250.00 |
| ทองรูปพรรณ | 59,927.48 | 62,050.00 |
| วันนี้ -150 | 50 | |
| 07 พฤศจิกายน 2568 | เวลา 11:26 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
ราคาทองคําวันนี้
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ