ทองร่วงหนักต่อเนื่อง หลังตัวเลขGDP สหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด ในประเทศวานนี้ลง 300 เช้านี้ลงอีก 150
โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักและหลุดระดับแนวรับจิตวิทยา 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง
ทองคำยังร่วงลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ปี 2557 ขยายตัว 3.5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะเติบโตที่อัตรา 3% โดยก่อนหน้านี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้แสดงความคิดเห็นในด้านบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดได้ประกาศยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตราการ QE เพราะเล็งเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานฟื้นตัวดีขึ้น
และถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐระบุว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานหลังจากสิ้นสุดมาตรการ QE แต่นักลงทุนก็ยังขานรับมุมมองในเชิงบวกโดยรวมของเฟดเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปี 2558
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ดอลลาร์จะแข็งค่าเมื่อสภาพเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับทองในทางกลับกัน และการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จะทำให้การลงทุนในทองคำมีความน่าสนใจน้อยลง เพราะทำให้ราคาทองแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าผลตอบแทนที่จะได้รับจากการฝากเงินมากกว่าการถือครองคำไว้ จึงเทขายทองคำ
ส่วนรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่า มีจำนวนผู้ขอรับสวัดิการเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย โดยถึงแม้ปรับตัวขึ้น แต่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานก็ยังอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวดี
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ วานนี้ทองคำในประเทศลดลงรวม 300 บาท โดยพบการเคลื่อนไหวของทองคำรวม 5 ครั้งและเป็นการปรับลดลง 4 ครั้งและขึ้นเพียง 1 ครั้ง โดยเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกร่วงลงอย่างหนักหลังธนาคารกลางสหรัฐยุติมาตราการ QE ขณะที่เปิดตลาดทองคำเช้าวันนี้ พบว่า ทองลงอีก 150 บาท ซึ่งเป็นผลจากทองคำตลาดโลกร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวาน ซึ่งจะส่งผลกดดันต่อทองคำในประเทศ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำซึ่งวานนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันพุธ และยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อในระหว่างวันหากราคาทองดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,210-1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามาก และกดดันให้ราคาทองปรับตัวลงต่อไป แนวรับหลักของการปรับตัวลงในรอบนี้อยู่ที่บริเวณจุดต่ำสุดของการปรับตัวลงในรอบก่อนที่บริเวณ 1,180-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และคาดว่าจะมีแรงขายออกมามาก หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณดังกล่าวได้
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง