ทองร่วง! ดอลลาร์แข็งหลังอีซีบีขยายเวลาQE ในประเทศร่วงตาม150
โดยราคาทองคำร่วงกว่า 1% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ภายหลังประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณขยายเวลาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ในประเทศเงินบาทยังแข็งค่ากดดันทองร่วง 150 บาท
สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 96.98 ส่งผลกดดันมายังราคาทองคำร่วงลงกว่า 13 ดอลลาร์แตะที่ระดับ 1,279 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายหลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น โดย ECB จะใช้มาตรการ QE ไปจนกระทั่งทิศทางของเงินเฟ้อมีความยั่งยืน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำที่ถือว่าเป็นตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยยามเมื่อเกิดความเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนในทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ ได้ถูกลดความน่าสนใจลง ภายหลังจากคำให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ และจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในวันข้างหน้า เนื่องจากก่อนหน้านี้ นักลงทุนกังวลว่า หากคำให้การของนายโคมีย์บ่งชี้ว่าปธน.ทรัมป์ได้ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ก็จะส่งผลให้มีการดำเนินการถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ส่วนการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้สิ้นสุดลงแล้ว และผลเอ็กซิทโพลล์ของ BBC, ITV และ Sky บ่งชี้ว่า แม้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ก็อาจจะไม่ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกระบวนการ Brexit ซึ่งจะไม่ราบรื่นหรืออาจกินระยะเวลายาวนาน
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เปิดตลาดวันศุกร์สุดสัปดาห์ราคาร่วงลง 150 บาทตามทิศทางทองคำตลาดโลก และโดยเฉพาะในขณะนี้เงินบาทยังอยู่ในระดับแข็งค่าในรอบเกือบ 2 ปี ได้ส่งผลเป็นแรงกดดันหนักต่อตลาดทองคำให้ราคาร่วงลงดังกล่าว
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับลงสู่แนวรับระยะสั้นที่ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับหลักที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันและ 50 วัน ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,280-1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง