ทองลดลง 3 วันแต่ปริมาณไม่มาก สัปดาห์หน้าแนะติดตามประชุมเฟดคาดส่งผลต่อทองคำให้ผันผวน
โดย
ราคาทองคำตลาดโลกปิดตลาดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะขายทอง ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งขายทำกำไร ภายหลังราคาปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ จากข้อมูลที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในทองคำลดลงด้วย
ส่วนภาพรวมราคาทองในสัปดาห์นี้(8-12 ธ.ค.) พบว่าทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เมื่อวันอังคารต้นสัปดาห์ ทำให้ช่วงปลายสัปดาห์พบแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ประกอบกับจากการที่ใกล้ถึงช่วงเวลาสิ้นปี นักลงทุนบางรายเริ่มลดกิจกรรมการซื้อขายทองคำก่อนช่วงเทศกาลวันหยุด นอกจากนี้รายงานเศรษฐกิจสหรัฐช่วงปลายสัปดาห์ อย่าง ข้อมูลยอดค้าปลีกและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่สดใส เป็นหลักฐานใหม่ที่แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว ส่งผลกดดันต่อทองคำให้ปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัด
ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาทองปรับตัวลง มาจากการร่วงลงของราคาน้ำมันตลาดโลก เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นได้ถ่วงความต้องการซื้อทองเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ โดยความกังวลเรื่องเงินเฟ้อจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ โดยอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลให้มูลค่าของพันธบัตรและเงินสดลดลง แต่มูลค่าทองคำกลับสามารถต้านแรงกดดันเงินเฟ้อได้ ดังนั้นหากเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้ามหากอัตราเงินเฟ้อต่ำ หรือ เงินฝืด ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ก็พบความผันผวนขึ้นลงในกรอบแนวต้านและรับทางเทคนิคของราคาทองระหว่างวัน โดยอีกหนึ่งปัจจัยนั้นมาจาก สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงได้ช่วยพยุงราคาทองไม่ให้ปรับตัวลงมาก เนื่องจากทองคำซึ่งถูกซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์จึงทำให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ส่วนในสัปดาห์หน้านักลงทุนต่างเฝ้าจับตาประเด็นหลักที่คาดว่าจะส่งผลให้ทองคำเคลื่อนไหวผันผวนได้ จากกำหนดการประชุมมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ซึ่งมีกำหนดการประชุมในวันอังคาร(16)และวันพุธ(17) โดยจะมีการออกแถลงการณ์ผลการประชุมในคืนวันพุธ ตามเวลาไทย ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะเปลี่ยนแปลงภาษาที่ใช้ในแถลงการณ์ โดยอาจจะมีการตัดคำว่า “considerable time” ซึ่งไม่ได้ระบุถึงเวลาที่ชัดเจนในการขึ้นดอกเบี้ย ออกไปจากแถลงการณ์
ทั้งนี้ธนาคารกลางสหรัฐได้ยุติโครงการซื้อพันธบัตรไปเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นกรุยทางสู่การขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549 โดยมีการคาดการณ์กันในวงกว้างว่าการขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2558 และจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อทองคำ เนื่องจากถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าผลตอบแทนที่จะได้รับจากการฝากเงินมากกว่าการถือทองคำไว้ จึงเทขายทองคำ
เพราะฉนั้นสัปดาห์หน้า(15-19 ธ.ค.) ตลาดมุ่งความสนใจไปที่หลังจากการเสร็จสิ้นการประชุมและการออกแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐแล้ว หากผลการประชุมออกมาเหนือการคาดการณ์หรือมีสัญญานการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้านี้ จะส่งผลกดดันให้ทองคำเกิดความผันผวนขึ้นได้
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด สัปดาห์หน้าคาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวรับที่บริเวณ 1,215-1,220 และ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,240 และ 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ.
ดอลลาร์แข็งค่ากดดันทองคํา คาดแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบระดับสูง
ทองคําตลาดโลกเคลื่อนไหวในกรอบทางเทคนิค รอปัจจัยชี้นำใหม่
ความไม่แน่นอนการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด-ดอลลาร์แข็งกดดันทองคํา
ทองคําฟื้น แต่ต้องจับตาหลังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนผ่อนคลายลง
ประธานเฟดส่งสัญญาณยังไม่สรุปลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.ฉุดทองคําร่วง
แรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยกดดันทองคํา ดึกคืนนี้จับตาผลประชุมเฟด
เจรจาการค้าสหรัฐ-จีนคลี่คลายฉุดแรงเทขายทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก | 
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 61,350.00 | 61,450.00 | 
| ทองรูปพรรณ | 60,124.56 | 62,250.00 | 
| วันนี้ -50 | -50 | |
| 04 พฤศจิกายน 2568 | เวลา 17:11 น. | (ครั้งที่ 14) | 
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
ราคาทองคําวันนี้
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ