ทอง!!!ลดสัดส่วนได้แต่ต้องมีติดพอร์ต
โดยอีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับการลงทุนทองคำ ที่ได้กูรูมาวิเคราะห์และแนะนำให้ท่านผู้กำลังลงทุนทองคำ หรือกำลังสนใจที่จะมาลงทุนในทองคำ นำไปปรับใช้ในการปรับพอร์ตของตนเอง ตามความเหมาะสม และคิดว่าข้อมูลชินนี้น่าจะเป็นโยชน์ต่อทุกคน ไม่มากก็น้อย…
พอร์ตการลงทุนที่มี“ทองคำ”อยู่ในสัดส่วนประมาณ 10-20% ย่อมมีความผันผวนต่ำกว่าพอร์ตที่ไม่มีการลงทุนในทองคำเลย
เกิดคำถามในหมู่ Gold Lover ว่า เมื่อสถานการณ์ทองคำเป็นเช่นนี้ ในพอร์ตการลงทุนของแต่ละคน ควรปรับพอร์ต ลดสัดส่วนการลงทุนในทองคำลงดีหรือไม่
สานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล นักวิเคราะห์กองทุนรวม บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ทัศนะถึงการลงทุนในทองคำ ว่า ยังแนะนำให้น้ำหนักการลงทุนอยู่เท่าเดิม ส่วนแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นน่าจะยังคงแกว่งตัว
“ผมแนะให้คงหรือถืออยู่เท่าเดิม เพราะว่าที่แนะนำไว้ตั้งแต่แรกไม่เกิน 10-15% ของพอร์ตมองว่าเหมาะสมแล้ว ดังนั้นคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงน้ำหนักการลงทุนในกองทุนทองคำช่วงนี้ โดยผมมองแนวรับไว้ประมาณ 1,250-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์”
สำหรับเรื่องของการลงทุนทองคำระยะสั้นนั้น เขาแนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อน และกลับเข้าสะสมเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นบริเวณแนวรับน่าจะดีกว่า เช่นเดียวกับระยะยาวที่ให้สะสมตอนที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง
“แต่ต้องเตือนนิดหนึ่ง ปีนี้คงไม่ใช่ปีของทองคำ การปรับตัวขึ้นให้เห็น New high แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ผมมองว่าอย่างดีที่สุดน่าจะขึ้นไปแถว 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ถือว่าเก่งมากแล้ว แต่ที่ยังให้มีกองทุนทองคำอยู่ในพอร์ต ผมมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่ปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยมีความเสี่ยงของปัญหาหนี้ยุโรป และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างเปราะบางที่เราต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป”
ธนวัฒน์ รุ่งธนาภิรมย์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และจัดการกองทุนต่างประเทศ บลจ. กสิกรไทย มองแนวโน้มการลงทุนในทองคำว่าหลังจากราคาทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรงลงไปที่ระดับ 1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อกลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา และปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากตลาดคลายความกังวล โดยเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 1,400-1,468 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในเดือนนี้นั้น บลจ. กสิกรไทยมองว่าในระยะสั้นราคาทองคำอาจจะมีความผันผวน เนื่องจากอาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะๆ เพื่อปรับลดความเสี่ยงซึ่งจะกดดันราคาทองคำลงมาได้ แต่ราคาไม่น่าจะปรับลงรุนแรงจนหลุดกรอบ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นราคาต้นทุนการผลิตในเหมืองทองคำปัจจุบัน
โดย บลจ. กสิกรไทย มองเป้าหมายราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,300-1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนโอกาสที่ราคาทองจะกลับมาพุ่งขึ้นไปสูงมากๆ เหมือนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น อาจพอเป็นไปได้แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะว่าปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แม้ว่าจะยังมีปัญหาหนี้ยุโรปที่ยังแก้ไขได้ไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่สัญญาณการฟื้นตัวของสหรัฐที่ชัดเจนขึ้นก็เปิดทางเลือกใหม่ให้ผู้ลงทุนเริ่มมั่นใจที่จะเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ อย่างหุ้นเพื่อเก็งกำไรจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อก็น่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำตลอดปีนี้ จึงยังไม่มีแรงกดดันมากพอที่จะทำให้นักลงทุนกลับมาลงทุนในทองคำในฐานะเครื่องมือช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ประกอบกับการเก็งกำไรในทองคำอาจจะเริ่มแผ่วลง เพราะว่านักวิเคราะห์และนักลงทุนบางส่วน มองว่า ยุคทองของการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำอาจจะเริ่มเสื่อมมนต์ เพราะทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาแล้วถึง 12 ปี
อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทย ยังคงเชื่อว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ผู้ลงทุน ควรมีไว้ในพอร์ตการลงทุน เนื่องจากทองคำค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) กับหุ้นค่อนข้างต่ำ พอร์ตการลงทุนที่มีทองคำอยู่ในสัดส่วนประมาณ 10-20% ย่อมมีความผันผวนต่ำกว่าพอร์ตที่ไม่มีการลงทุนในทองคำเลย
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนทองคำในเวลานี้ แนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นจับจังหวะลงทุนโดยยึดกรอบราคาเป้าหมายที่ให้ไว้เป็นหลัก แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวแนะนำให้ทยอยเก็บสะสมเมื่อราคาทองคำหลุด 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมา โดยให้คำนึงถึงสัดส่วนการถือครองทองคำต่อพอร์ตลงทุนทั้งหมด ไม่เกิน 20%
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
คงลดลงอีกถ้าสถาณการณ์บ้านเมืองและโลกเป็นแบบนี้