ทองเคลื่อนไหวไม่มากรอตัวเลขเศรษฐกิจ ในประเทศบาทแข็งขึ้นน้อย
โดยราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ จากตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแอของสหรัฐยังช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ในประเทศเช้าอังคารเงินบาทแข็งมากทองขึ้นได้น้อย
ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้นจะส่งผลให้ทองคำมีราคาถูกลงและสร้างความดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
และนอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ลดลง 0.4% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และยังเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2558 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก่อนหน้า
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในช่วงคืนวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง, การเริ่มสร้างบ้านใหม่, ดัชนีราคาผู้บริโภค และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ทั้งหมดเป็นตัวเลขของเดือนกรกฎาคม ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขส่วนใหญ่จะชะลอตัวลง
ขณะประเด็นเศรษฐกิจสำคัญนอกเหนือจากรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐที่ตลาดเฝ้ารอติดตามคือการเปิดเผยรายงานการประชุมของ คณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงิน(FOMC) ของเฟด ในคืนวันพุธ เพื่อดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 20-21 ก.ย. ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันอังคารราคาปรับขึ้น 50 บาท หลังจากเมื่อวานนี้ราคาปรับลดลง 50 บาท โดยขณะนี้ทองคำในประเทศยังคงได้รับปัจจัยลบกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งขณะนี้เงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องมาจากปัจจัยเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งแนวโน้มเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งปัจจัยการแข็งค่าของเงินบาท ส่งผลให้ทองในประเทศปรับขึ้นได้น้อย และตรงกันข้ามหากทองคำโลกปรับตัวลดลง จะส่งผลให้ทองในประเทศปรับลดลงปริมาณมาก
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบ 1,335-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนรอดูการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ในคืนวันพุธ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,335 และ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,350-1,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่อาจจะยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ยกเว้นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาคืนนี้แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ทั้งนี้ถ้าราคาทองคำทะลุแนวต้าน 1,350-1,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,360 และ 1,367 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง