ทองโลกทรงตัว ระยะสั้นยังขาลง ในประเทศบาททรงตัวเป็นผลทองนิ่ง
โดย
ราคาทองคำเช้านี้ทรงตัวจากช่วงเย็นเมื่อวาน โดยตลาดทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันจากความวิตกต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด และประเด็นดังกล่าวส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นกดดันทองคำให้ปรับลดลง
ตลาดทองคำปรับตัวลดลงมาตั้งแต่วันศุกร์และเป็นการปรับตัวลงระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้นเกินคาดถึง 255,000 ตำแหน่ง จากการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9%
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมามีการเปิดเผยข้อมูลแรงงานจากเฟดว่า ดัชนีภาวะตลาดแรงงานดีดตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 ซึ่งนับเป็นข้อมูลอีกตัวหนึ่งที่เฟดอาจใช้ประกอบการตัดสินใจในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้ ดัชนีภาวะตลาดแรงงาน(LCMI) ปรับตัวขึ้น 1.0 ในเดือนก.ค. หลังจากที่ลดลง 0.1 ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม จากกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลก ล่าสุดเมื่อวานนี้ กองทุน SPDR กลับมาเทขายทองคำออกไป 6.54 ตัน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำต่อเนื่องสุทธิ 22.3 ตัน
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าระยะนี้แนวโน้มทองคำจะมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในลักษณะค่อยๆ ปรับตัวลดลง โดยมีประเด็นการแข็งค่าของเงินดอลลาร์รวมถึงการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เป็นแรงกดดันสำคัญ
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดทองวันอังคารราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ราคาปรับลดลง 150 บาท ซึ่งเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องจากราคาเมื่อวันเสาร์ที่ราคาร่วงลงไป 250 บาท โดยทองในประเทศเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับทองคำตลาดโลก หลังจากได้รับแรงกดดันจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง ส่วนปัจจัยค่าเงินบาทตั้งแต่เมื่อวานถึงเช้านี้พบว่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัว คาดเงินบาทรอปัจจัยใหม่ชี้นำการเคลื่อนไหวต่อไป ซึ่งระยะนี้เงินบาทจะไม่ส่งผลต่อทิศทางทองคำในประเทศมากเท่าที่ควร
บริษัท ฮั่วเซ่่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดยังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway down โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่คาดว่าจะเป็นจุดดีดตัวกลับเก็งกำไรระยะสั้น แต่ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวคาดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,315 และ 1,305 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,340 และ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนทวีความรุนแรง หนุนแรงซื้อทองคําพุ่งขึ้น
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายทางเทคนิคฉุดทองคําตลาดโลก-ไทยร่วงต่อเนื่อง
แรงขายฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก เพื่อเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัย
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 50,300.00 | 50,400.00 |
ทองรูปพรรณ | 49,391.28 | 51,200.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
10 เมษายน 2568 | เวลา 16:48 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง