ทองโลกปรับลดลง จากดอลลาร์แข็ง ในประเทศสวนทางขึ้น 50 จากบาทอ่อนค่าเกือบ 34 บาท
โดยราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเป็นวันแรก จากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังมีคำแถลงของประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดจะมีการพิจารณากันในการประชุมครั้งต่อๆไป ตราบใดที่ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาในเชิงบวก โดยประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก มองว่าภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐมีเสถียรภาพ และคาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลงแตะ 5% ในช่วงสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ขณะที่นักลงทุนต่างจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ทั้งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ในวันพุธ ส่วนวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเมษาย สำหรับในวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนเมษายน
ส่วนผลการประชุมของยุโรปกรุ๊ปเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาหนี้ระหว่างกรีซและกลุ่มประเทศเจ้าหนี้เกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ ไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆเพื่อที่จะคลี่คลายวิกฤตหนี้สินของกรีซ แม้มีความคืบหน้าในบางประเด็นก็ตาม ในขณะที่กรีซมีกำหนดจะต้องจ่ายเงิน 750ล้านยูโรคืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้ ทำให้ตลาดยังมีความกังวลว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองคำในประเทศ เคลื่อนไหว 3 ครั้งโดยเป็นการปรับขึ้น 2 คร้ั้งและปรับลง 1 ครั้งและปิดตลาดพบว่าทองขึ้น 50 บาท ส่วนเงินบาทอ่อนค่ายังเป็นแรงหนุนสำคัญให้ทองในประเทศปรับขึ้นได้ในขณะนี้ โดยต่อเนื่องเช้าวันนี้ ทองในประเทศปรับขึ้นอีก 50 บาท สวนทางกับทองคำตลาดโลกที่ปรับลดลง โดยเป็นผลจากเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวโน้มเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดกว่าเป็นผลมาจากกังวลสถานการณ์ที่กรีซจะชำระหนี้ไม่ทัน
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,180-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,190และ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,180ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,170ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเด็นที่ต้องระวังคือกองทุน SPDR มีการลดปริมาณการถือครองทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องในวันพฤหัสและวันศุกร์ที่ผ่านมารวมทั้งสิ้น 13.4 ตัน โดยขายทองคำออกมาในวันศุกร์ 10.7 ตัน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนชาวตะวันตกไม่ได้กังวลประเด็นหนี้ของกรีซ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง