ทองโลกผันผวน! จากประเด็น BREXIT ในประเทศเงินบาท-ทองยังไร้ทิศทาง
โดย
ราคาทองโลกปรับตัวลดลง หลังจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐเนื่องจากมีผลสำรวจบ่งชี้ว่าชาวอังกฤษอาจเลือกที่จะอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป ประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกหนุนให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นปรับตัวพุ่งขึ้นผลักดันสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำให้ร่วงลงดังกล่าว
นักลงทุนคลายความกังวลต่อการลงประชามติเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (BREXIT) หลังจากผลสำรวจระบุว่า ชาวอังกฤษที่สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปนั้นมีคะแนนมากกว่า ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยลดทอนความน่าสนใจในทองคำลง
ผลสำรวจโดยยูกอฟ (YouGov) ซึ่งระบุว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 44% สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่กับสหภาพยุโรป(อียู) ต่อไป ขณะที่ 43% สนับสนุนให้ออกจากอียู โดย YouGov ได้จัดทำการสำรวจดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ผลสำรวจความคิดเห็นโดยหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ เดอะ เมล์ ที่จัดทำขึ้นในวันศุกร์และวันเสาร์นั้น พบว่า 45% สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ในอียูต่อไป และ 42% สนับสนุนให้ออกจากอียู
อย่างไรก็ดี ตลาดทองคำยังมีแรงหนุนจากที่กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก ยังเข้าซื้อทองต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ กองทุน SPDR ได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มเติมอีก 0.89 ตัน
ส่วนในคืนนี้วันนี้มีประเด็นเศรษฐกิจที่ตลาดให้ความสนใจติดตามคือการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต่อสภาคองเกรสเป็นวันแรก ซึ่งจะทำให้ทราบแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองผันผวนรวม 8 ครั้งและสรุปราคาตอนปิดตลาดลดลง 200 บาท ส่วนเปิดตลาดวันอังคารราคาปรับขึ้น 100 บาท โดยขณะนี้ทองในประเทศได้รับผลกระทบจากทองคำตลาดโลกที่เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนจากประเด็นการลงมติของชาวอังกฤษ รวมถึงค่าเงินบาทที่ยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าหลังการลงประชามติของอังกฤษในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายนนี้ ราคาทองและเงินบาทน่าเห็นแนวโน้มทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนขึ้น เพราะฉนั้นก่อนลงประชามติของอังกฤษต้องเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขายเป็นพิเศษ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบ 1,280-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าคำแถลงของประธานเฟดน่าจะเป็นปัจจัยบวกที่อาจจะทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นเข้าใกล้ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกรอบ แต่ต้องระวังแรงเทขายทำกำไร ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,280 และ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
ดอลลาร์แข็ง-แรงขายฉุดทองคําโลกร่วงต่อ ทองไทยบาทอ่อนช่วยหนุน
แรงเทขายทำกำไรฉุดทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก กลับมาเท่าต้นสัปดาห์
แรงขายทำกำไรฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยบาทแข็งร่วมกดดันลงแรง
ทองคำโลก-ไทยพุ่งนิวไฮแรง หลังทรัมป์ประกาศภาษีตอบโต้ทั่วโลก
แรงขายฉุดทองคําลดลงระยะสั้น แนวโน้มยังสดใส ทองไทยบาทอ่อนหนุน
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุทองคําโลก-ไทยพุ่งแรงนิวไฮต่อเนื่อง
ทองคําขึ้นนิวไฮต่อเนื่อง จับตามาตราการภาษีสหรัฐหนุนแรงซื้อ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 49,600.00 | 49,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 48,709.08 | 50,500.00 |
วันนี้ 0 | 50 | |
07 เมษายน 2568 | เวลา 13:41 น. | (ครั้งที่ 15) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง