ทองโลกพุ่งพรวด จากดอลลาร์อ่อนหลังตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย. สหรัฐย่ำแย่ ในประเทศพุ่งพรวด 400 บาท
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 5 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนกันยายนของสหรัฐ ออกมาน่าผิดหวังส่งผลกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งรวมถึงโลหะมีค่าอย่างทองคำ
ทองคำวันสุดท้ายของสัปดาห์ปรับตัวขึ้นเกือบ 23 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 2.06% หลังจากตั้งแต่ต้นสัปดาห์เป็นต้นมาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน 5 วันทำการอย่างไรก็ตามราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์ลดลง 0.8%
ปัจจัยบวกต่อการพุ่งขึ้นของทองคำมาจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานเดือนกันยายน จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.1%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานใหม่ในเดือนกรกฏาคม และสิงหาคม โดยปรับลดลง 59,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้
และจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ย่ำแย่ของสหรัฐในครั้งนี้ทำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะยังไม่น่าจะรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งตัวเลขที่อ่อนแอและกระแสคาดการณ์ดังกล่าวได้กดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ เพราะการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้โลหะมีค่าที่กำหนดราคาซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาน่าดึงดูดใจมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอได้ก่อให้เกิดความกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังฉุดรั้งการขยายตัวของสหรัฐ ซึ่งผลักดันให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนมาถึงวันศุกร์ทองคำปรับลดลงต่อเนื่องรวม 400 บาท ขณะที่วันเสาร์วันเดียว ทองคำพุ่งพรวด 400 บาท ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ราคาทองไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาซื้อขายเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ค่าเงินบาทตลอดทั้งสัปดาห์ยังอ่อนค่าเป็นแรงหนุนต่อทองใปประเทศโดยพบการอ่อนค่าในระดับ 36.63 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนปัจจัยหนุนต่อการพุ่งขึ้นของทองในประเทศก็มาจากการพุ่งขึ้นของทองคำตลาดโลก และปัจจัยเงินบาทอ่อนค่าสนับสนุน
บริษัท ฮั่่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวลงมาใกล้ระดับแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่บริเวณ 1,098-1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากระยะสั้นราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือแนวรับสำคัญดังกล่าวได้ คาดว่าจะมีแรงดีดตัวกลับทางเทคนิคได้ในระยะสั้น โดยมีแนวต้านสำคัญแรกที่ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากว่าราคาทองคำปรับตัวลงหลุดจากแนวรับสำคัญที่ 1,098-1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดว่าจะเกิดแรงเทขายทองคำทางเทคนิคเพื่อตัดขาดทุน (stop loss) และคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่แนวรับสำคัญถัดไปที่ระดับ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งใกล้กับจุดต่ำสุดของราคาทองคำที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ของปีนี้ที่ระดับ 1,077 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดอลลาร์แข็งค่า-แรงเทขายฉุดทองคําโลกร่วงหนัก ทองไทยร่วงแรงตาม
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,700.00 | 43,800.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,917.96 | 44,300.00 |
วันนี้ -450 | -50 | |
25 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:12 น. | (ครั้งที่ 28) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง