ทองโลกพุ่งหลังตลาดหุ้นร่วงและเงินดอลลาร์อ่อน ในประเทศบาทอ่อนทองขึ้น
โดย
ราคาทองคำพุ่งขึ้น หลังจากร่วงลงแรงเมื่อวันก่อน เนื่องมาการดิ่งลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ ประกอบกับการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเนื่องมาจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งได้ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าลงทุนในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
นักลงทุนลดการการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงและกลับเข้าไปลงทุนในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงไปกว่า 180 จุด หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 4% อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียยังไม่มีแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
และนอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกุมพาพันธ์ของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 92.2 เนื่องจากผู้บริโภคมีความไม่เชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ, สถานะการเงินส่วนบุคคล และแนวโน้มตลาดแรงงาน
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาริชมอนด์ รายงานดัชนีภาวะธุรกิจในปัจจุบันของภาคการผลิตร่วงลงสู่ระดับ -4 ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 2 ในเดือนก่อนหน้า เพราะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่อ่อนแอ รวมทั้งการดิ่งลงของราคาพลังงาน
นอกจากนี้ จากการที่กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก ได้เข้าซื้อทองคำในปริมาณที่สูงถึงวันละ 19.33 ตัน ซึ่งนับเป็นปริมาณซื้อต่อวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 โดยปัจจุบันกองทุน SPDR ถือครองทองคำ 752 ตัน และในปีนี้กองทุน SPDR เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำรวมแล้ว 109 ตัน หลังจากปีที่แล้วกองทุน SPDR ลดปริมาณการถือครองทองคำ 67 ตัน ซึ่งจากรายงานนี้ถือว่าเป็นปัจจัยบวกหนุนต่อทิศทางที่เป็นบวกต่อราคาทองคำ
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ จะมีคำแถลงของนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด ซึ่งคาดว่าจะกล่าวถึงแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด นอกจากนี้ ยังมีรายงานตัวเลขดัชนีPMI ภาคบริการเดือนกุมภาพันธ์ และยอดขายบ้านใหม่เดือนมกราคม
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ ทองในประเทศเคลื่อนไหวผันผวน 7 ครั้ง โดยเป็นการปรับลดลง 4 ครั้งและปรับขึ้น 3 ครั้งและสรุปราคาตอนปิดตลาดพบราคาลดลง 100 บาท โดยมีปัจจจัยการอ่อนค่าของเงินบาทช่วงพยุงราคาทองในประเทศให้ลดลงได้ไม่มาก ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันพุธ ทองปรับขึ้น 150 บาท โดยเป็นผลมาจากการปรับขึ้นของทองคำต่างประเทศ และปัจจัยเงินบาทอ่อนค่า
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบ 1,200-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระยะสั้นมีแนวต้านที่ 1,240 และ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,207 และ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
ดอลลาร์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําตลาดโลก-ไทยพุ่ง
ทองคําถูกเทขายหลังเมื่อวานเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อ-ดอลลาร์อ่อนค่า
มูดี้ส์ลดอันดับเครดิตสหรัฐ หนุนแรงซื้อทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้น
คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนฉุดแรงเทขายทองคําร่วงต่อเนื่อง
ดอลลาร์อ่อน-กังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐหนุนแรงซื้อทองคําพุ่ง
คืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐและคู่ค้า ฉุดแรงเทขายทองคําร่วงหนัก
แรงซื้อเก็งกำไร-เงินเฟ้อสหรัฐต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 51,150.00 | 51,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 50,225.08 | 52,050.00 |
วันนี้ 600 | -50 | |
21 พฤษภาคม 2568 | เวลา 13:10 น. | (ครั้งที่ 11) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง