ทองโลกยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ ในประเทศบาทแข็งทำทองนิ่ง
โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร ประกอบกับมีข้อมูลที่บ่งชี้ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้ทองคำพุ่งทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ ส่วนในประเทศเช้านี้ทองเปิดตลาดราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากตอนปิดตลาดเมือวานนี้
ทองคำโลกเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวผันผวนตลอดเกือบทั้งวันและมาเริ่มอ่อนแรงลงในช่วงใกล้ปิดตลาดที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากทองคำพุ่งขึ้นไปกว่า 2.3% ตลอด 2 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยหนุนต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำก็เนื่องมาจากการร่วงลงของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นหุ้นนิวยอร์กซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเช่นทองคำ
และนอกจากนี้ ล่าสุดมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐส่งผลกดดันมายังทองคำ โดยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอย่าง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมกราคม พุ่งขึ้น 4.9% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 272,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 51 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ ตลาดจับตาตัวเลขประมาณการจีดีพีครั้งที่ 2 ประจำไตรมาส 4/2558 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจีดีพีของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.4% แต่เป็นกาารชะลอตัวลงจากประมาณการครั้งแรกที่เพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งจากข้อมูลนี้ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดกระแสคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าปัจจัยนี้จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหวผันผวน 4 ครั้งและสรุปราคาตอนปิดตลาดพบว่าปรับขึ้น 100 บาท ส่วนเงินบาทค่อนข้างทรงตัวจึงไม่ส่งผลบวกหรือลบต่อทองในประเทศมากนัก ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันศุกร์ ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ ที่ราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่บาทละ 20,900 บาท รับซื้อที่ 20,800 บาท และ ทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่บาทละ 21,300 บาท รับซื้ออยู่ที่ 20,496.32 บาท
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดจะปรับขึ้นสู่แนวต้านที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ถึงการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง ถ้าผ่านแนวต้านที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,220 และ 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง