ทองโลกร่วงต่อเนื่อง 10 วันติด จากปัจจัยลบดอลลาร์แข็ง เช้านี้ในประเทศบาทอ่อนหนุนทองขึ้น
โดย
ราคาทองนิวยอร์กทำสถิติปิดร่วงลงต่อเนื่อง 10 วันทำการ และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากเพราะถูกเงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาไว้ นอกจากนี้กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังคงสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง
ทองคำทำสถิติร่วงลงยาวนานติดต่อกัน 10 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวขึ้นแตะที่ระดับ 97.61 ส่งผลให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
โดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์มาจากแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักวิเคราะห์คาดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะกระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและสร้างแรงกดดันให้กับราคาทองคำ
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากบรรดานักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบันในสหรัฐและยุโรปมีมุมมองทางลบต่อทิศทางราคาทองคำ ล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับการคาดการณ์ใหม่ว่าราคาทองคำในปีนี้จะลดลงต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะเดียวกันกองทุนทองคำรายใหญ่ของโลกอย่าง กองทุน SPDR Gold Trust ได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยเมื่อวานนี้กองทุนลดปริมาณการถือครองทองคำลงอีก 2.38 ตัน ซึ่งกองทุน SPDR ลดปริมาณการขายทองคำรวม 5วัน รวมทั้งสิ้น 21ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำ 687.31 ตันซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี สะท้อนให้เห็
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 20 ติดต่อกัน ซึ่งส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่ง ซึ่งสร้างปัจจัยลบต่อทองคำ
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหวผันผวน 5 ครั้งเป็นการลดลง 3 ครั้งและเพิ่มขึ้น 2 ครั้งโดยสรุปราคาทั้งวันพบว่า ราคาลดลง 100 บาท ซึ่งปัจจัยหนุนสำคัญต่อทองในประเทศที่ทำให้ราคาลดลงได้น้อยกว่าปกติมาจากเงินค่าที่อ่อนค่ามากสุดในรอบ 6 ปีที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนเปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันนี้ เพิ่มขึ้น 50 บาท ซึ่งมาจากเงินบาทที่อ่อนค่าหนุนทองเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดโลก
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด มองว่า ความต้องการทองคำจากจีนและอินเดียยังคงอ่อนแอ ขณะที่กองทุน SPDR ยังลดปริมาณการถือครองทองคำ ปัจจัยที่จะทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวมีเพียงการฟื้นตัวทางเทคนิค เนื่องจากเครื่องมือทางเทคนิคส่งสัญญาณขายมากเกินไป (Oversold) โดยประเมินแนวรับของทองคำไว้ที่บริเวณ 1,085-1,090 และ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ การฟื้นตัวยังคงต้องระวังแรงเทขาย โดยให้แนวต้านไว้ที่ระดับ 1,110 และ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงขายทำกำไรฉุดทองคำร่วง สัปดาห์หน้าจับตาเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ
เฟดลดดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณลดต่อหนุนทองคําโลก-ไทยพุ่งแรง
ดอลลาร์อ่อนค่า-เฟดปรับลดดอกเบี้ยตามคาดหนุนทองคําพุ่งขึ้นแรง
ทองคําปรับตัวขึ้น ก่อนทราบผลการประชุมเฟดในช่วงดึกคืนวันนี้
ทองคําเคลื่อนไหวในกรอบแคบ คืนนี้จับตาผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ
ทองคําเคลื่อนไหวในกรอบระดับสูงรับคาดการณ์เฟดปรับลดดอกเบี้ย
แรงขายฉุดทองคําลดลง ท่ามกลางคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 64,200.00 | 64,300.00 |
| ทองรูปพรรณ | 62,914.00 | 65,100.00 |
| วันนี้ -150 | -150 | |
| 13 ธันวาคม 2568 | เวลา 09:05 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
ราคาทองคําวันนี้
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ