ทองโลกร่วงต่อเนื่อง3 วันกว่า$40 เช้านี้ในประเทศบาทแข็งทองลง
โดยราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ทองคำยังเผชิญกับแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง หลังราคาหลุดแนวรับสำคัญ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 100 วัน
ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐในเดือนตุลาคม อยู่ที่ระดับ 54.1 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 54.0 ของตัวเลขเบื้องต้น ทั้งนี้ตัวเลขดัชนี PMI ขยายตัวได้ดีกว่าเดือนที่ผ่านมาที่ระดับ 53.1 และยังแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 53.0 และจากตัวเลขดัชนี PMI ที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
ส่วนในสัปดาห์นี้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่นักลงทุนต่างให้ความสำคัญจับตาดูเป็นพิเศษ คือการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐ ซึ่งจะมีการประกาศในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ขณะที่นักลงทุนต่างยังมีความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้คือเดือนธันวาคมก็เป็นได้ หลังจากการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่เฟดได้ส่งสัญญานชัดเจนว่า พร้อมพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป หากพิจารณาแล้วเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวตามเป้าหมายของเฟด ซึ่งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่เฟดจะนำไปพิจารณาต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อวานนี้ กองทุนได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลง 2.98 ตัน ซึ่งในทางจิตวิทยาถือว่าเป็นปัจจัยลบต่อทองคำในช่วงนี้
ส่วนในคืนวันนี้มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ คือ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนกันยายน ตลาดคาดการณ์ว่าจะตัวเลขดังกล่าวจะหดตัวตัวลง
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหวเปิดตลาดเพียง 1 ครั้งซึ่งเป็นการปรับลดลง 100 บาท ต่อเนื่องเปิดตลาดในเช้าวันอังคารพบว่าลดลงอีก 100 บาท ส่งผลให้ 2 วันทำการแรกของเดือนพฤศจิกายน ทองลดลงแล้ว 200 บาท ส่วนเงินบาทเช้าวันนี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้ โดยนักบิหารการเงินมองว่า เงินบาทวันนี้น่าจะเคลื่อนไหวไม่มาก โดยมองว่ารอปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด มองว่า ตลาดยังมีกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาในช่วงนี้ไม่ค่อยมีผลต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ถ้าพิจารณาจาก Fed fund rate futures ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด ในขณะนี้มีความเป็นไปได้ 50% ที่เฟดจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนธันวาคม และมีความเป็นไปได้ 59% ที่เฟดจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมกราคม 2559
ขะณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง ได้วิเคราะห์แนวโน้มทางเทคนิคของราคาทองคำ ซึ่งคาดว่าอ่อนตัวลงไปที่แนวรับที่ 1,130 และ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ระดับ 1,140 และ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง