ทองโลกร่วงหุ้นสหรัฐพุ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ ในประเทศร่วงตาม
โดยราคาทองคําร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ เนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะลุแนวต้าน 20,000 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใประวัติศาสตร์ ส่วนในประเทศเปิดตลาดร่วง 100 บาท ตามตลาดโลกรวมถึงแรงกดดันจากเงินบาที่กลับมาแข็งค่า
นักลงทุนเทขายทองคำจนราคาร่วงลงกว่า 13 ดอลลาร์หลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และโยกเม็ดเงินกลับเข้าไปลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจำพวกหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านที่ระดับ 20,000 จุด ซึ่งเป็นครั้งแรกเป็นประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อปี 2428 หรือเมื่อ 132 ปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากความคาดหวังที่ว่า นโยบายของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ โดยทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อเดินหน้าการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน คีย์สโตน เอ็กซ์แอล และท่อส่งน้ำมัน ดาโกต้า แอคเซส ที่ถูกระงับในสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่แม้เป็นโครงการอื้อฉาว สำหรับนักสิ่งแวดล้อม แต่ทรัมป์มองว่าทั้งสองโครงการจะนำไปสู่การสร้างงาน “ครั้งมโหฬาร” ให้แก่ชาวอเมริกัน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ของโลกได้เทขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ล่าสุดเมื่อวานนี้มากองทุน SPDR เทขายทองคำอีก 5.04 ตัน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุน SPDR กลับมาซื้อทองคำ 1.2 ตัน
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ จะมีการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมกราคม ยอดขายบ้านใหม่และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนธันวาคม ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ตลาดให้ความสำคัญติดตามการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2559 ของสหรัฐ
ทางด้านราคาทองในประเทศ เปิดตลาดวันพฤหัสบดีราคาร่วงลง 100 บาทต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ราคาปรับลดลง 150 บาท ทั้งนี้ทองคำในประเทศปรับลดลงตามทิศทางทองคำตลาดโลกรวมถึงแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาทที่เช้านี้แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 35.23 บาทต่อดอลลาร์
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่คงต้องระวังแรงเทขายหลังเทศกาลตรุษจีน โดยตลาดการเงินจีนจะหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน(Golden Week)ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.-2 ก.พ. 2560 ทำให้ขาดแรงซื้อทองคำจากจีนที่เป็นประเทศที่มีการบริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,210 และ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง