ทองโลกร่วงเมื่อคืน เช้าเริ่มฟื้น ในประเทศบาทอ่อนทองลงไม่เยอะ
โดยราคาทองคำร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และโยกเม็ดเงินกลับไปยังตลาดสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าอย่างตลาดหุ้น
ทองคำกลับมาได้รับแรงกดดันให้ปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ (U.S. Dollar Index) ปรับตัวขึ้น 0.19% แตะที่ 99.08 ซึ่งส่งผลอัตโนมัติให้ทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้นมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือเงินสกุลเงินๆ
นอกจากนี้ ทองคำยังถูกลดความน่าสนใจในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เมื่อตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยตลาดหุ้นได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค โดยปกติราคาทองคำและตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกันเสมอ โดยหากเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ตลาดหุ้นก็จะได้รับอนิสงส์จากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ
ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 284,000ราย ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 275,000 ราย แต่รายงานดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์และราคาทองคำแต่อย่างใด
ส่วนในคืนวันนี้จะมีประเด็นเศรษฐกิจที่ตลาดให้ความสนใจอยู่ที่ คำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขานิวยอร์ค ที่มีความเห็นในแนวทางที่ว่าเฟดไม่ควรจะเร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รายงานเศรษฐกิจตัวอื่นๆ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิต และยอดค้าปลีกประจำเดือนธันวาคา รวมถึง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศปรับขึ้นและลงอย่างละครั้งโดยปิดตลาดพบว่า ราคาทองปรับขึ้น 150 บาทโดยเป็นผลจากทองคำตลาดโลกยังเคลื่อนไหวในระดับสูงนอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อการปรับขึ้นของทองในประเทศ ส่วนเปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันศุกร์สุดสัปดาห์ ทองปรับลดลง 150 บาท หลังจากทองคำตลาดโลกร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนเช้านี้ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย โดยมีเงินบาทอ่อนค่ายังเป็นแรงหนุนต่อราคาให้ปรับลดลงได้ไม่มากเท่าที่ควร
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิคหลังจากราคาหลุดแนวรับสำคัญ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เกิดสัญญาณขายทางด้านเทคนิคและคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway down อย่างไรก็ดีจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่คาดว่าออกมาไม่โดดเด่นนัก คาดว่าราคาทองคำอาจฟื้นตัว โดยมีแนวรับที่ 1,070-1,075 และ 1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,095 และ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง