ทองโลกเคลื่อนไหวไม่มาก ในประเทศเงินบาทยังอ่อนเป็นแรงหนุนสำคัญ
โดยราคาทองคำโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินเยน นอกจากนี้ ทองคำยังถูกลดความน่าสนใจลงในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อที่ผ่านมา
นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันกลับเข้าไปลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าจะส่งผลให้ทองคำที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์นั้นมีราคาแพงขึ้นโดยอัตโนมัติสำหรับสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
โดยสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากรายงานเศรษฐกิจของยูโรโซนออกมาไม่ดี โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจยูโรโซนเดือนมกราคมลดลงต่ำกว่าตลาดคาด สู่ระดับ 22.7 จากระดับ 33.9 ในเดือนก่อนหน้า ประกอบกับนักลงทุนเริ่มช้อนซื้อหุ้นเก็งกำไรหลังจากตลาดหุ้นลดลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากรายงานเศรษฐกิจของจีนที่ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังจีนเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ในปี 2558 ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี และชะลอลงจากอัตรา 7.3% ในปี 2557 และจากภาวะที่ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ยังส่งผลต่อราคาน้ำมันให้ลดลงอย่างต่อเนื่องหลังน้ำมันตลาดโลกหลุดระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาเรล เนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก
ส่วนรายงานเศรษฐกิจของสหรัฐในคืนวันนี้จะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจการอนุญาตก่อสร้าง การเริ่มสร้างบ้านเดือนและดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งทั้งหมดเป็นตัวเลขในเดือนธันวาคม โดยตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขจะมีทั้งดีและไม่ดี
ด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้เป็นอีกกหนึ่งวันที่ราคาทองแม้จะมีการเคลื่อนไหวถึง 3 ครั้งแต่ตอนปิดตลาดราคาก็กลับมายืนอยู่ระดับเดิมจากระดับวันก่อนหน้าและเป็นระดับราคาเดียวกันกับเมื่อวันเสาร์ และต่อเนื่องเปิดตลาดเช้าวันพุธกลางสัปดาห์ ราคาทองก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับราคาซื้อขายตั้งแต่วันเสาร์ ส่วนเงินบาทยังคงอยู่ในระดับอ่อนค่าซึ่งส่งผลเป็นแรงหนุนต่อทองในประเทศต่อไป
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับที่ 1,080 และ 1,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,100 และ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ทั้งนี้ทองคำยังมีแนวต้านแข็งแกร่งที่ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,100.00 | 44,200.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,312.12 | 44,700.00 |
วันนี้ 500 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 14:11 น. | (ครั้งที่ 11) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวราคาน้ำมัน, ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง