ปัญญาเพดานหนี้สหรัฐฯหนุนทองต่อ ในประเทศปรับขึ้นตาม 150 บาท
โดย
เมื่อวานนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยประเด็นหลักที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังอยู่ที่การเจรจาระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านของสหรัฐฯในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินเพื่อไม่ให้สหรัฐฯ ต้องปิดหน่วยงานราชการบางส่วนในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และประเด็นเรื่องการขยายเพดานหนี้ โดยสภาคองเกรสจะลงมติในวันเสาร์นี้
ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ที่ 1,339.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อคืนนี้(27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่า สภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาเพื่อให้สมาชิกผ่านร่างกฏหมายฉบับนี้ภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณปัจจุบัน โดยผู้นำพรรครีพับลิกันแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับร่างกฏหมายฉบับนี้
และอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ มาจากรายงานของรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 77.5 จากระดับ 76.8 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 78.0
สัปดาห์หน้า(30 ก.ย.-4 ต.ค.)ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สำคัญอย่าง ตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานซึ่งคาดว่าจะอยู่ในความสนใจของตลาด โดยจะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนกันยายนของ ADP Employee ในวันพุธ(2) ซึ่งนักลงทุนจะให้ความสำคัญกับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานเดือนกันยายนที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์(4)
โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าถ้าตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯออกมาดี คาดว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ อาจจะเริ่มมีการปรับลดโครงการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 85,000 ล้านดออลาร์ เกิดขึ้น และคาดว่าจะมีแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำออกมา
ส่วนประเด็นเรื่องปัญหาการคลังของสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจนออกมาผ่านการเจราจาของสมาชิกสภาคองเกรส
บริษัท ฮั่งเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด คาดการณ์ราคาทองคำมีแนวรับที่บริเวณ 1,290-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,340 และ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดอและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ให้มุมมองการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,297-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,315-1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านที่ 1,335-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคําพุ่งแรงรับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลภาษีสหรัฐ
กังวลผลกระทบภาษีสหรัฐหนุนแรงซื้อทองคํา ทองไทยเงินบาทอ่อนหนุน
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลหนี้สหรัฐหนุนทองคําฟื้น
ดอลลาร์แข็ง-พันธบัตรพุ่ง หวังเจรจาการค้าลุล่วงฉุดทองคําลดลง
กังวลภาษีศุลกากรสหรัฐหนุนแรงซื้อทองคําตลาดโลก-ไทยพุ่งขึ้น
ทองคําตลาดโลกร่วงแรง ทองไทยถูกเงินบาทแข็งค่ากดดันร่วงแรงตาม
ทองคําเคลื่อนไหวแคบ สัปดาห์หน้าจับตาครบกำหนดเจรจาภาษีสหรัฐ
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 51,350.00 | 51,450.00 |
ทองรูปพรรณ | 50,316.04 | 52,250.00 |
วันนี้ 100 | 100 | |
12 กรกฎาคม 2568 | เวลา 09:12 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ