พึงรู้ไว้ 5 ข้อในการซื้อทอง
โดยก่อนจะซื้อทองคำเราต้องสังเกตุอะไรบ้างนั้น เรามีคำแนะนำจาก สคบ. ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ พึงต้องรู้และสังเกตุเมื่อเวลาไปซื้อทองตามร้านทองต่างๆ ซึ่งนอกจากร้านขายทองต้องติดสลากสินค้าถูกต้องและชัดเจนแล้ว เราพึงต้องรู้ 5 ข้อสำคัญต่อไปนี้
1. ร้านทองต้องแสดงราคาขายทองแท่งและทองรูปพรรณของแต่ละวันชัดเจน มีการแสดงราคารับซื้อคืน และมีการแสดงค่ากำเหน็จ ซึ่งค่ากำเหน็จอาจจะไม่ได้ติดที่หน้าร้าน แต่ติดอยู่ในถาด
2. มีป้ายบอกประเภทสินค้าชัดเจนว่าเป็นสร้อย แหวน กำไล
3. มีการระบุชัดเจนว่า มีเปอร์เซ็นต์ทองเท่าไร เช่น 96.5% หรือ 99.99% เป็นต้น
4. ที่เนื้อทองคำทุกชิ้นจะต้องมีโลโก้ของโรงงานผู้ผลิต
5. ต้องระบุน้ำหนักของทองแต่ละชิ้นให้ชัดเจน
อนึ่ง…เมื่อตัดสินใจซื้อแล้วต้องให้ทางร้านค้าชั่งน้ำหนักให้เห็นชัดเจนโดยทองคำ 1 บาท ต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15.16 กรัม ซึ่งสังเกตว่า ต้องมีทศนิยม 2 ตำแหน่ง และไม่ว่าน้ำหนักจะอยู่ที่ 15.17 กรัม 15.18 กรัม 15.19. กรัม และ 15.20 กรัม ถือเป็นทอง 1 บาททั้งหมด ที่สำคัญตราชั่งที่ใช้นั้น ต้องมีความเสถียรที่ 0.00 หน่วย
ซึ่งหากผู้บริโภคท่านใดเห็นว่า ร้านค้าแห่งใดไม่แสดงฉลากตามที่กำหนดให้ครบทุกอย่างขอให้แจ้งมาที่สายด่วน สคบ.โทร. 1166 โดยร้านทองนั้นจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท ซึ่งสคบ.จะเอาจริงแล้ว ไม่มีการเตือนเช่นที่ผ่านมา เพราะหมดเวลาการเตือนแล้ว.
เหมือนร้านทองบวกค่ากำเหน็จตามใจ
พนักงานกดเครื่องคิดเลขเท่าไหร่ก็ต้องยอมจ่ายเท่านั้น
ไม่มีสิทธิ์ต่อรองราคา
สอบถามหลักการคิดค่ากำเหน็จ เป็นเส้นหรือ คิดตามน้ำหนักบาททอง
“ค่ากำเหน็จ” คือ ค่าผลิตทองรูปพรรณให้เป็นแบบลวดลายต่างๆ รวมทั้ง ค่าการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจร้านทอง ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการผลิตชิ้นงานรูปพรรณนั้นๆ
ซึ่งค่าการตลาดนั้นหมายรวมถึงทั้ง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงาน ค่าประกันภัย ค่าเช่าสถานที่ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดในการบริหารจัดการร้าน ก็ได้ครับ
ค่ากำเหน็จคิดอย่างงัยครับ ถ้า ซื้อ1 บาท 2 เส้น ต้องคูณ2 ปะ
ค่ากำเหน็จปกติแล้วจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ส่วนนะครับ ตั้งแต่ลายทอง ค่าการตลาด การขนส่ง(สำหรับร้านต่างจังหวัด) รวมๆ เฉลี่ยแล้วปัจจุบันค่ากำเหน็จจะอยู่ราวๆ 800-1,500 บาทเลยนะครับ
ใช่คับผมโดนมาละ สมมุติว่าสร้อย 1บาทค่ากำเหน็จ1,500 แต่ซื้อสร้อย3บาท คูณค่ากำเหน็จผมคูณสามเท่า ผมก้อไม่เข้าใจเหมือนกัน สร้อยเส้นเดียว ช่างสามคน หรือทำลายมาสามที่หรือ
สรุปว่างัยครับ จริงๆแล้วต้องจ่าย1500 บาทหรือ 1500*3 อะครับ เอาเปรียบเราน้อถ้า*3 นะ
ตราชั่งน้ำหนักทองของร้านทองแต่ละร้าน(กรณีนำทองไปขาย)ได้น้ำหนักทองไม่เท่ากันต้องแจ้งหน่วยงานไหนคะเพื่อเข้าไปตรวจสอบ
แจ้งหน่วยงาน สคบ. ได้เลยครับ
https://www.ocpb.go.th/news_view.php?nid=39
ตอนขายสร้อยคืนร้านเดิม
เขาหัก5% ค่าอะไรครับ
เป็นหลักเกณฑ์ที่ทางสคบ. กำหนดไว้ให้ครับ ถ้าจะเข้าใจง่ายๆ ก็คือค่าเสื่อมทองรูปพรรณนั่นแหละครับ เพราะโดยทั่วไปทองรูปพรรณเราซื้อเพื่อสวมใส่ก็ย่อมมีค่าเสื่อมอยู่แล้วครับ แต่มีเงื่อนไขต่อว่าขายคืนร้านเดิมน่าจะเพราะทองร้านใครร้านมันง่ายต่อการตรวจสอบด้วยว่าทองคำร้านเราจริงแท้คุณภาพแน่นอนครับ
ปกตินะครับ มันเป็นแบบนี้นานแล้วเค้าคิด เป็นบาท ตรรกะของพ่อค้า แต่ผมเข้าใจความหมายท่านผมเองก็คิดเช่นนั้น พ่อค้าย่อมเอาเปรียบลูกค้าเสมอ