ภาพรวมทองคำ วันนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เหตุยังขาดปัจจัยใหม่
โดยราคาทองคำนิวยอร์กขยับขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย ภาพรวมทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ปัจจัยบวกทองคำมาจากรายงานเศรษฐกิจข้อมูลราคานำเข้าเดือนตุลาคมของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ
ทองคำได้รับปัจจัยบวก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงาน ดัชนีราคานำเข้าเดือนตุุลาคม ร่วงลง 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่า ราคาน้ำมันในระดับต่ำ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การขยับตัวขึ้นทองคำยังเป็นได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสุดท้ายของปีเดือนธันวาคมนี้
โดยก่อนหน้านี้ มีถ้อยแถลงสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายคน โดยนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน มีความเห็นหลังจากมีการเปิดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาดว่า “มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธันวาคม เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ”
ขณะที่ปัจจัยลบต่อทองคำก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนือง เมื่อ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ของโลก ยังคงเดินหน้าลดปริมาณการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 8 โดยเมื่อวานนี้ กองทุนเทขายทองคำอีก 2.68 ตัน รวมทั้งสิ้น 8 วันกองทุนเทขายทองคำรวม 29.68 ตัน ซึ่งนับว่าเป็นการขายติดต่อกันยาวนานนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ส่วนรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันนี้นี้ จะมีการการแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปว่าจะมีนโยบายเพิ่มการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QEในเดือนธันวาคม หรือไม่
ทางด้านราคาทองในประเทศ เมื่อวานนี้เคลื่อนไหว 2 ครั้งเปิดตลาดราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากตอนปิดตลาดวันก่อน และขยับลง 50 บาท ในการประกาศครั้งที่ 2 ขณะที่เปิดตลาดทองในประเทศเช้าวันนี้ ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดตลาดวานนี้ ส่วนเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวาน คาดว่าวันนี้ ทั้งทองคำและเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ ชี้นำ
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด มองว่า แนวโน้มราคาทองคำระยะนี้คาดจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับสำคัญที่ 1,077 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่เป็นจุดต่ำสุดที่ทำไว้ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,100 และ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง