ราคาทองคำพุ่งกว่า 2% จากการเข้าซื้อเก็งกำไรหลังร่วงลงกว่า 3% ในประเทศเสาร์ขึ้น 100 ศุกร์ขึ้น 200
โดยราคาทองคำทะยานขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนได้กลับเข้ามาซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทองคำร่วงลงกว่า 3% แต่การซื้อขายยังคงเบาบางหลังจากที่ตลาดเปิดทำการภายหลังวันคริสต์มาส
โดยก่อนหน้านี้ ราคาทองคำร่วงลงไปแล้วกว่า 3% จากระดับสูงสุดในเดือนธันวาคม ในขณะเดียวกันการที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แสดงถึงความแข็งแกร่งต่อเนื่อง ก่อให้เกิดกระแสความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ในปีหน้า
ซึ่งข้อมูลที่ช่วยสนับสนุนกระแสการคาดการณ์ดังกล่าวในสัปดาห์นี้มาจาก รายงานจากตลาดแรงงาน โดยพบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ธันวาคม ปรับตัวลดลง 9,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 290,000 ราย และนับเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งข้อมูลนี้นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามตลอดทั้งทั้งสัปดาห์นี้(22-26 ธ.ค.)พบว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่หยุดการทำธุรกรรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันหยุดปลายปี ขณะที่แนวโน้มตลาดทองคำในทางเทคนิคมีโอกาสร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันหากราคาปิดในสัปดาห์นี้ต่ำกว่าระดับ 1,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ บริเวณ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงเห็นแรงเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรระยะสั้นส่งผลให้ราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นได้บ้าง ประกอบกับ นักลงทุนเพิ่มความสนใจในการเข้าลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ทองในประเทศเคลื่อนไหว 3 คร้ั้งและเป็นการปรับขึ้นทั้ง 3 ครั้งรวมราคา 200 บาท ต่อเนื่องเปิดตลาดเช้าวันนี้พบว่าเพิ่มขึ้นอีก 100 บาท รวมสองวันศุกร์กับเสาร์ทองในประเทศพุ่งขึ้น 300 บาท เป็นผลให้ทองคำรูปพรรณขายออกกลับมายืนเหนือระดับ 19,000 บาทได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากทองคำตลาดโลกปรับพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับแนวต้าน 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลุ่ม บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในทางเทคนิค หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,167 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,167 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,153 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง