ราคาทอง รอชี้ชะตาการแก้ปัญหาหน้าผาการคลัง
โดยคาดราคาทองคำ ยังแกว่งตัว ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาการคลัง นักวิเคราะห์แนะ ควรทยอยขายลดความเสี่ยงหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,665-1,670…
ราคาทองคำ ยังคงแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแนวรับและแนวต้านทางเทคนิคแม้ว่า ตลาดการเงินของสหรัฐฯ และหลายประเทศจะกลับมาเปิดทำการหลังจากปิดการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่ด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่กลับเข้ามาลงทุน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนรอติดตามประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ และบางส่วนอาจรอกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งในช่วงหลังวันปีใหม่ ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,659.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,650 และ 1,667 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 24,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,100 บาท
คณะกรรมาธิการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) ระบุว่าผู้จัดการกองทุนและกองทุนได้ปรับลดสถานะซื้อสุทธิ ในทองคำในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันอังคารที่ 18 ธันวาคม โดยปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม สะท้อนมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในอนาคต ที่อาจปรับตัวลงได้อีก
ดังนั้นการลงทุนในทองคำในระยะยาวอาจเลือกที่จะใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเข้ามาบริหารความเสี่ยงหากราคาทองปรับตัวลงแรง ส่วนการเก็งกำไรระยะสั้น ยังคงต้องติดตามประเด็นเรื่องหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ ซึ่งในวันนี้วุฒิสภาของสหรัฐจะเปิดประชุมอีกครั้งหลังจากปิดการประชุมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องหน้าผาทางการคลังอยู่ในวาระการประชุม แต่อาจมีการพูดคุยระหว่างตัวแทนจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกัน อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหาข้อยุติให้ได้ก่อนสิ้นปี ส่วนสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐนั้น ยังคงต้องติดตามว่าจะมีการนัดประชุมกันก่อนสิ้นปีหรือไม่
ดังนั้นรายงานข่าวต่างๆที่อาจมีออกมาในช่วงนี้จึงอาจทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นลงในกรอบที่กว้างขึ้น ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคนั้น ภาพรวมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากช่วงต้นสัปดาห์มากนัก การเคลื่อนไหวยังคงเป็นการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับและแนวต้านเพื่อรอปัจจัยเรื่องการแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ หากยังไม่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจา คาดว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้าน 1,650-1,665 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์
หากราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,650 และ 1,635-1,640 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ยังสามารถซื้อเก็งกำไรการดีดตัวกลับ และควรทยอยขายลดความเสี่ยงหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ คาดว่าราคาทองคำคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปได้
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ