ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง42,850.0042,950.00
ทองรูปพรรณ42,084.1643,450.00
วันนี้ 20050
13 พฤศจิกายน 2567เวลา 13:43 น.(ครั้งที่ 5)

ข่าวข่าวเศรษฐกิจ


ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยต้นสัปดาห์(อังคารที่ 26 ก.พ.56)ปรับตัวลดลง 9.75 จุด


ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยวันอังคารที่ 26 ก.พ. ที่ระดับ 1,530.38 จุด ลดลง 9.75 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 31,050.10 ล้านบาท

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยวันอังคารที่ 26 ก.พ.2556 ที่ระดับ 1,530.38 จุด ลดลง 9.75 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 31,050.10 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 273 หลักทรัพย์ ลดลง 316 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท เอ็ม ดี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน)

ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ลดการถือทองลง 17.46 ตัน


ราคาทองคำแกว่งตัวค่อนข้างแคบในการซื้อขายวันศุกร์ หลังจากเงินดอลลาร์เริ่มทรงตัว และด้วยราคาที่มีราคาถูกลงดึงดูดให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา อย่างไรก็ตาม ความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้การฟื้นตัวของราคามีกรอบค่อนข้างจำกัด โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,593.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวันศุกร์ 12.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,574 และ 1,597 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 22,400 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,300 บาท กองทุน SPDR รายงานวานนี้ว่า มีการปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงจากวันศุกร์รวม 17.46 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,272.85 ตัน

ธนาคารกลางของยุโรปจะเปิดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถชำระเงินกู้ระยะ 3 ปี คืนก่อนกำหนด ในรอบที่ 2 ได้ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีการประเมินว่า อาจมีการชำระ

หุ้นไทยกว่า 1,700 จุด กำลังจะกลับมา!


ผมไม่แน่ใจว่าผู้อ่านหลายท่านที่กำลังอ่านบทความของผมในสัปดาห์นี้ อาจจะได้เห็นดัชนีหุ้นไทยไปไกลถึง 1,560 จุด! หรือในทางกลับกันอาจเห็นดัชนีหุ้นไทยกลับลำลงต่ำกว่า 1,500 จุด (อีกครั้ง) นี่แหละครับ การลงทุนมีความเสี่ยงหลากหลายมุม แต่ที่ดูจะมั่นใจได้ชัดเจน คือ ความคึกคัก หรือภาวะกระทิงในวงการตลาดหุ้นปีนี้ จะยังคงมีสถิติให้ต้องบันทึกอีกระยะหนึ่งพอสมควร เพราะเงินท่วมโลกดอกเบี้ยไทยสูงกว่าดอกเบี้ยในตลาดสำคัญของโลก แถมแบงก์ชาติอาจทานแรงกดดันให้ต้องลดดอกเบี้ยลงอีก ยิ่งทำให้ต้นทุนเล่นหุ้นต่ำลงอีก ผมจึงอยากให้ผู้อ่านลองดูมุมองของบรรดาโบรกเกอร์ในไทยจนถึงเวลานี้ เกือบ 100% มองกระทิงดุในตลาดหุ้นไทยยังคงควบขวิดดัชนีหุ้นสูงขึ้นจากเดิมที่เคยประเมินไว้

จากการลงทุนภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกระตุ้นการบริโภคภาคประชาชนด้วยการลดภาษีบุคคลธรรมดา ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยังคงเติบโตสูงจากการบริโภคและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ค่าย บลจ.ไอเอ็นจี

กสิกรไทยคาดหุ้นไทยฉุดไม่อยู่สัปดาห์หน้าขึ้นต่อ


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสัปดาห์หน้าหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากแรงซื้อเก็งกำไร แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไร โดยให้แนวรับที่ 1,520-1,505 จุด และแนวต้านที่ 1,565-1,600 จุด

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. มีรายงานว่า บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,540.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.22% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 2.79% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 59,536.43 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 462.87 จุด เพิ่มขึ้น 2.63% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางแรงซื้อเก็งกำไรจากนักลงทุน รวมทั้งแรงซื้อจากกองทุนในประเทศ ก่อนที่จะปรับลดลงในวันพฤหัสบดี โดย

คาดสัปดาห์หน้าบาทเคลื่อนไหวที่ 29.80-29.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด สัปดาห์หน้าค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ 29.80-29.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ และจับตาการตัดลดงบประมาณอัตโนมัติของสหรัฐฯ และคำแถลงนโยบายการเงินและเศรษฐกิจของเฟด

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาททรงตัว โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ตามทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินในภูมิภาคและการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ดี เงินบาทต้องล้างช่วงบวกทั้งหมดลงและกลับมาทยอยอ่อนค่าในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากเงินดอลลาร์ฯ ดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้น หลังจากที่บันทึกการประชุมเฟดเมื่อปลายเดือนม.ค.กระตุ้นให้ตลาดเริ่มกังวล เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการยุติมาตรการ QE ในช่วงปลายปีนี้ อนึ่ง การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทยังเป็นไปอย่างปกติในช่วงหลังการประชุมกนง.รอบ ล่าสุด ซึ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไว้ที่ 2.75% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาด ในวันศุกร์ (22 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ 29.84 เท่ากับระดับปิดตลาดในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 ก.พ.)

ฮั่วเซ่งเฮง เผยสัปดาห์หน้าติดตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ


สัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างแรงในการซื้อขายทองคำในคืนวันพุธ ทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือนครึ่ง เนื่องจากการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และลงไปต่ำสุดที่ 1,555 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทั้งนี้ รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯบางรายเห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯควรยุติมาตรการ QE ก่อนที่ตลาดแรงงาน จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก

เนื่องจากมีความเสี่ยงและต้นทุน ที่เพิ่มมากขึ้นจากการเข้าซื้อพันธบัตร ประกอบกับรายงานตัวเลขภาคการผลิตของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จนการฟื้นตัวของราคาทองคำ มีกรอบค่อนข้างจำกัด

ปิดตลาดหุ้นไทยสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 22 ก.พ.56) ปรับเพิ่ม 11.39 จุด


ปิดตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 22 ก.พ. ที่ระดับ 1,540.13 จุด ปรับเพิ่ม 11.39 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 75,174.07

ปิดตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.2556 ที่ระดับ 1,540.13 จุด ปรับเพิ่ม 11.39 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 75,174.07 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 384 หลักทรัพย์ ลดลง 272 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 22 ก.พ.56) บวก 11.25 จุด


ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 22 ก.พ. ที่ระดับ 1,539.99 จุด เพิ่มขึ้น 11.25 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 44,371.00 ล้านบาท

ปิดตลาดเช้าหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.2556 ที่ระดับ 1,539.99 จุด เพิ่มขึ้น 11.25 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 44,371.00 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 416 หลักทรัพย์ ลดลง 200 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 129 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
2.บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)

ตลาดหุ้น เตรียมพร้อมรับมือไฟดับ


ตลาดหลักทรัพย์เตรียมพร้อมรับมือไฟดับ เผยมีไฟสำรองพร้อมเพื่อไม่ให้ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์สะดุด ส่วนโบรกเกอร์น่าจะมีระบบสำรองไฟอยู่ตามอาคารสำนักงานอยู่แล้ว…

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงพลังงานจะประภาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานและอาจมีการดับไฟ หรือหยุดจ่ายไฟบางพื้นที่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการดับไฟในพื้นที่ไหน และในช่วงเวลาใด แต่ในความเห็นส่วนตัว เชื่อว่าทางรัฐบาลคงจะไม่หยุดจ่ายไฟในพื้นที่ใจกลางธุรกิจ หรือปล่อยให้เกิดไฟดับขึ้น มิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ และเชื่อว่าน่าจะมีทางออกที่ดีได้ ที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวม

สำหรับในส่วนของตลาดหลักทรัพย์นั้น มีระบบไฟสำรอง พร้อมรับมือทั้งในกรณีไฟกระชากและในกรณีไฟดับ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีระบบเติมน้ำมันที่สามารถนำมาปั่นไฟฟ้าได้ และสามารถมีไฟใช้อยู่ได้หลายวัน

ม.หอการค้าปรับเป้าใหม่โต 4.8-5.3% หลังเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณโตแรง


เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณโตแรง ม.หอการค้า ปรับเป้าใหม่โต 4.8-5.3% ชี้มีโอกาสโตเกินกรอบ หากเศรษฐกิจโลกฟื้นชัด การเมืองไทยไร้ปัญหา ยันยังไม่เห็นฟองสบู่ มองหมดเวลาดอกเบี้ยขาลง แต่จะพลิกเป็นขาขึ้นช่วงไตรมาส 3 เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่า มีสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ศูนย์ฯ จึงได้ปรับประมาณการณ์อัตราเติบโตของปี 56 ใหม่ โดยคาดว่าจะเติบโตในกรอบ 4.8-5.3% หรือมีค่ากลางที่ 5% และมีโอกาสเติบโตได้มากกว่า 5.3% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 4.5% หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีความชัดเจนมากขึ้น และการเมืองไทยไม่มีปัญหา

“ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโต มาจากรัฐบาลยังคงอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าประมาณปลายไตรมาส 2 น่าจะมีเม็ดเงิน

ทองไทยผันผวนหนักวันเดียวปรับขึ้น-ลง 7 รอบ


ทองไทยผันผวนหนักช่วงเช้าเปิดตลาดรับอรุณทองร่วงนำร่องก่อน 550 บาท และมีการปรับเปลี่ยนระหว่างวันอีกรวมทั้งสิ้น 7 รอบ ก่อนปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเปิดตลาดสมาคมค้าทองคำประกาศลดราคาทองคำลงทันที 550 บาท แล้วนั้น ระหว่างวันราคาทองคำยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง โดยความเคลื่อนไหวทั้งวันของราคาทองคำในวันนี้ (21 ก.พ.) มีการปรับ 7 ครั้ง โดยครั้งแรกที่เปิดตลาด เมื่อเวลา 09.28 น. ปรับตัวลดลงทันที 550 บาท หลังจากนั้นครั้งที่ 2 เวลา 10.10 น. ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมา 50 บาท

ส่วนครั้งที่ 3 ราคาทองคำปรับลดลง 50 บาท โดยเวลาห่างจากการปรับขึ้นของครั้งที่ 2 ไม่ถึง 1 ชั่วโมง การปรับราคาครั้งที่ 4 เมื่อเวลา 13.01 น. ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 50 บาท และเวลาผ่านไป 41 นาที ราคาทองคำได้ปรับเป็นครั้งที่ 5 ของวัน โดยปรับขึ้น 50 บาท

ฮั่วเซ่งเฮงเผย SPDR ลดการถือทองลง 8.88 ตัน


ราคาทองคำเริ่มดีดตัวกลับหลังจากปรับตัวลงแรงในการซื้อขายวันพุธ แม้ว่าจะถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งดีดตัวแข็งค่าขึ้นตอบรับความเป็นไปได้ ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยุติการผ่อนคลายทางการเงิน แต่ด้วยราคาทองที่ต่ำลงดึงดูดให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา

โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ 1,576.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,555 และ 1,584 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ขายออกที่บาทละ 22,250 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 22,150 บาท กองทุน SPDR รายงานวานนี้ว่า มีการปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลง 8.88 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,290.31 ตัน

ราคาทองคำ คงยังจะถูกความกังวลจากเรื่องรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณการยุติการผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับรายงานตัวเลขภาคการผลิตของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ที่ยังมีแนวโน้ม