ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง40,350.0040,450.00
ทองรูปพรรณ39,628.2440,950.00
วันนี้ 100-50
02 พฤษภาคม 2567เวลา 13:43 น.(ครั้งที่ 6)

ข่าววิเคราะห์ทอง


ทองพุ่งทะยานเหนือ $1,200 ได้ระยะสั้นจากดอลลาร์อ่อน คาดอีซีบีซื้อสินทรัพย์เพิ่มรวมทองคำ ในประเทศวานนี้ขึ้น 200 เช้าลง 100


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเหนือระดับแนวต้านจิตวิทยา 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และปิดตลาดอ่อนตัวลงกลับมาปิดตลาด ที่ระดับ 1,197 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรหลังจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน นอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง เนื่องจากราคาบริการและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ถ่วงราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทองคำทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร และส่งผลกระตุ้นความต้องการลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป(ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศในเดือนพฤศจิกายน พุ่งขึ้นแตะ 11.5 จากระดับ -3.6 ในเดือน

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ แนวโน้มยังเป็นขาลง ดอลลาร์กลับมาแข็งค่ากดดันต่อ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งทองลง 50


แนวโน้มราคาทองวันนี้ภาพรวมของราคาทองคำยังพบการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่าลดลงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการกลับมาแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ รวมถึงการที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่ปรับตัวลงหลังจากพุ่งขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการหดตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

กระแสการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนั้น ยังส่งผลกดดันต่อทิศทางของทองคำผ่านการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่่มเติมจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กหลังจากก่อนหน้านี้พุ่งขึ้นราว 2% ในรอบ 4 ปี หลังจากทางการญี่ปุ่นระบุว่า จีดีพีไตรมาส 3 ของปีนี้ หดตัวลง 1.6% ซึ่งเป็นการหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน และตรงกันข้ามกับที่ตลาดคาด

ทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบ หลังวันศุกร์พุ่งขึ้นสูง คาดรอปัจจัยใหม่ๆ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งทองคงที่!!


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ขณะเดียวกันการที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในวันศุกร์ จากระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนราคาทองเช่นกัน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองปรับตัวลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเลือกที่จะเข้าซื้อเก็งกำไรในทองคำ และเป็นแรงหนุนต่อทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้นดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ผ่านมาค่อนข้างสดใส โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนตุลาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นับเป็นสัญญาณสดใสที่บ่งชี้ว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ขณะที่รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพฤศจิกายน ได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี โดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมานี้เมื่อปลายสัปดาห์นี้ ได้กดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลงใกล้ระดับแนวรับ 1,140 ดออลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะมีการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นแรงหนุนให้ราคาทองพุ่งตัว

ทองพุ่งขึ้นจากดอลลาร์อ่อนค่า น้ำมันดิบนิวยอร์กพุ่งและเก็งกำไรเป็นแรงหนุนเพิ่ม ในประเทศวันเสาร์พุ่ง 450


แนวโน้มราคาทองสัปดาห์หน้าราคาทองคำพุ่งขึ้นจากระดับต่ำในรอบหลายสัปดาห์เหนือระดับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากได้แรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขณะที่การที่ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าโอเปคอาจลดกำลังการผลิต ได้เป็นแรงหนุนช่วยการฟื้นตัวของทองคำในครั้งนี้

ราคาทองพุ่งขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนในโลหะมีค่าซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยชนีดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดการเคลื่อนไหวของดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินคู่แข่งอีก 6 สุกลเงินหลัก ร่วงลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันศุกร์ โดยสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสูงกว่าระดับสำคัญที่ 1.2500 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.2300 ในวันพุธที่ผ่านมา

ซึ่งโดยปกติแล้ว ราคาทองคำและสกุลเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกัน ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบนิวยอร์กดีดตัวขึ้นราว 2% ในวันศุกร์ จาก

ทองฟื้นเล็กน้อย ผิดหวังข้อมูลแรงงานที่ซบเซา แนวโน้มยังเคลื่อนไหวในกรอบ ในประเทศบาทอ่อนหนุนทองขึ้น 50


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองขยับขึ้นเล็กน้อย เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ประกอบกับรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังอ่อนแอ ท่ามกลางความต้องการทองคำที่ปรับตัวลดลง

ทองคำปรับตัวขึ้นหลังจาก กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 พฤศิจกายน ปรับตัวขึ้น 12,000 ราย แตะที่ 290,000 ราย โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 280,000 ราย

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบยูโร หลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขานิวยอร์ก ได้กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่สหรัฐจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงเกินไป และอัตราเงินเฟ้อที่ยังต่ำเกินไป

ทองลดลง หลังพบเศรษฐกิจยูโรถดถอย ช่วงนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบรอปัจจัยใหม่ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งทองลง 50


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำปรับตัวลงหลังจากฟื้นตัวขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา เนื่องจากเพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีรายงานเศรษฐกิจภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวต่ำกว่าคาด ขณะที่ภาพรวมทองคำยังเคลือนไหวแกว่งตัวไปมาในกรอบตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ราคาระหว่าง 1,142 – 1,178 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำตลาดโลกปรับตัวลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังมีรายงานจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายน ขยายตัวเพียง 0.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยจากตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมดังกล่าวทั้งในกลุ่มยูโรโซนและสหภาพยุโรป(อียู) นั้นถือว่าขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่น่าเป็นห่วงของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาล

ทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย จากแรงซื้อเก็งกำไร ภาพรวมยังลดลงต่อเนื่อง ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนหนุนทองขึ้น 200


แนวโน้มราคาทองวันนี้ภาพรวมราคาทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 ในรอบ 10 วันและทำสถิติลดลง 2 วันติดต่อกัน หลังจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้ความต้องการทองคำร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาดปรับขึ้นเล็กน้อย คาดเป็นแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากทองคำปรับลดลงปริมาณมากในช่วงที่ผ่านมา

ทองคำในฐานสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากการแข็งค่าขึ้นของดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงมาแล้วทั้งหมด 4% ในปีนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ทองคำมีแรงดึงดูดลดลง เนื่องจากโดยปกตินักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากกำไรจากการซื้อขายเท่านั้น ในขณะที่การ

ทองร่วงต่อ หลังดอลลาร์แข็งค่าขานรับดาวโจนส์ปิดพุ่งแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐสดใส ในประเทศบาทอ่อนทองลงแค่ 200


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองร่วงลงต่อ ภายหลังการพุ่งขึ้นเกือบ 30 ดอลลาร์เมื่อวันศุุกร์ที่ผ่านมา โดยตลาดรับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ว่า สหรัฐอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น หลังข้อมูลสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลกดดันต่อราคาทองคำผ่านการแข็งค่าขึ้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และกลับเข้าไปลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น

ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ หลังจากที่ได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือนตุลาคม ที่พบว่าเพิ่มขึ้น 214,000 ราย โดยถึงแม้ว่าตัวเลขการเพิ่มขึ้นดังกล่าวจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ของตลาดก็ตาม แต่การปรับขึ้นของตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 200,000 รายมาอย่างต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 9 ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนเดียวกัน ร่วงลง 0.1% มาอยู่ที่ 5.8% ซึ่งอัตราว่าง

ทองคำฟื้นตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ ภาพรวมยังอยู่ในขาลง แนะตามนโยบายธนาคารกลางต่างๆ ในประเทศเช้านี้บาทแข็งทองลง 50


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นได้รับแรงกดดันหลังจากที่ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 214,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ขณะที่อัตราว่างงานร่วงลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 5.8% ซึ่งอัตราว่างงานดังกล่าวร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ทั้งนี้นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้กล่าวไว้ว่า “เมื่อประเมินจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าและไม่มั่นคงเป็นธรรมดา นโยบายสนับสนุนจึงยังมีความจำเป็น” โดยเธอไม่ได้เปิดเผยว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด

ขณะเดียวกันประธานเฟดได้กล่าวว่า ปรับนโยบายสู่สภาพปกตินั้น “อาจก่อให้เกิดความผันผวนทางการเงินที่สูงขึ้น” แต่เฟดจะพยายามสื่อสารยุทธศาสตร์นโยบาย

ทองคำพุ่งเกือบ 30$ หลังพบตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐต่ำกว่าคาด ในประเทศเช้านี้พุ่งพรวด 400


แนวโน้มราคาทองคำราคาทองคำพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีกว่า หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคม ที่ออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ แม้ว่าอัตราการว่างจะปรับตัวลดลงก็ตาม ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอีกครั้ง

เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจำเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 214,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ส่วนอัตราว่างงานเดือนเดียวกัน ร่วงลง 0.1% จากระดับเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 5.8% ซึ่งการที่อัตราว่างงานดังกล่าวร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี นั้นเป็นสถิติบ่งชี้ว่า บริษัทต่างๆมีมุมมองที่เป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถรับมือกับการชะลอตัวลงของตลาดเกิดใหม่และตลาดยุโรป ทั้งนี้ อัตราจ้างงานของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 200,000 รายมาอย่างต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 9 แล้ว
จากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนต่างไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐว่าเป็นไปอย่าง

ทองร่วง 7 วันติดต่อกัน จากดอลลาร์แข็งค่ากดดัน คืนนี้ตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ในประเทศบาทยังอ่อนทองลงน้อย


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เนื่องจากยังถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ราคาทองปรับตัวลดลงไม่มากนัก หลังจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวานที่ผ่าน โดยแตะระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2553

ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) โดยหลังการประชุม นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป ส่งสัญญาว่าอีซีบีจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์

นอกจากนี้ ทองคำยังถูกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ ปรับตัวลง 10,000

ทองร่วงหนักต่ำสุด 4 ปีกว่าจากดอลลาร์แข็งหลังรีพับลิกันชนะเลือกตั้งครั้งใหญ่ ในประเทศบาทอ่อนใกล้ 33 ทองลงน้อย


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำร่วงหนักต่อเนื่องและแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีกว่านับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2553 เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้ทองคำที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินนี้มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น ความต้องการทองคำจึงลดลง นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่สูงเกินคาดของภาคเอกชนสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทองคำร่วงลงติดต่อกันหลายวัน และล่าสุดทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนักจาก ดัชนีสกลุเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากที่พรรครีพับลิกันสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสในศึกเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งทำให้พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาสหรัฐและสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2006 หรือในรอบกว่า 8 ปี
และประเด็นดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจมากกว่า โดยนักวิเคราะห์