ราคาทองคําวันนี้

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบในทิศทางขาลง ดอลลาร์แข็งค่ากดดันต่อเนื่อง ในประเทศบาทแข็งเช้านี้ลงอีก 50

ภาพรวมราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบในทิศทางขาลง จากการที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สกัดความต้องการลงทุนในทองคำ ท่ามกลางการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ขณะเดียวกันการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000 จุดเป็นครั้งแรก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบระหว่างแนวรับ 1,270-1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในทิศทางทองคำอ่อนตัวลง อันเนื่องมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร โดยสกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างต่อเนื่องในระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี หลังจากถ้อยแถลงของ นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่าพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ในการรับมือถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนยังคงลดลงต่อไป ซึ่งสัญญาณดังกล่าวบ่งชี้ว่ามีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่อีซีบีจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในประชุมกำหนดนโยบายครั้งถัดไป

ทองขึ้นเล็กน้อย หลังร่วงต่ำสุดรอบ 2 เดือน เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ทองในประเทศบาทแข็งลงมากกว่าปกติ ทั้งสัปดาห์ลง 300

ราคาทองคำตลาดโลกดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวานนี้ หลังจากที่ปรับตัวลงมา 5 วันทำการติดต่อกัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนที่กลับมาปะทุขึ้นอีก

สถานการณ์ความขัดแย้งล่าสุดระหว่างยูเครนและรัสเซียนั้นดูเหมือนว่าจะกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อรถบรรทุกลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากรัสเซียข้ามพรมแดนมายังยูเครน โดยไม่ได้รับความยินยอมจากรัฐบาลยูเครน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยูเครนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำอันรุกรานและไตร่ตรองไว้ก่อนของทางฝั่งรัสเซีย

ส่วนภาพรวมราคาทองคำทั้งสัปดาห์นี้(18-22 ส.ค.) พบว่าปรับตัวลดลง 1.9% และเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 18 กันยายน ซึ่งในสัปดาห์นั้น ทองคำร่วงลงไปถึง 2.09% โดยแรงกดันให้ทองคำร่วงลงมาจากที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร อันเนื่องมาจากสัญญาณการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศษฐ

ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่อง จากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดัน ในประเทศบาทเริ่มอ่อน เช้านี้ลงแค่ 50

ราคาทองคำลดลงต่อเนื่อง และร่วงลงแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ซึ่งส่งผลให้อุปสงค์ในทองคำลดลง

สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่เริ่มฟื้นตัวจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ กำลังจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าซึ่งส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ประกอบรายงานข่าวที่มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซน ยังคงชะลอตัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร

ส่วนรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ครั้งล่าสุดนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้ว่าภาพรวามจะยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ความเห็นของเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐส่วนใหญ่ มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวเร็วเกินคาด และมีแนวโน้มที่จะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตร

ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ รอปัจจัยใหม่ชี้นำ ในประเทศเช้านี้บาทอ่อนเล็กน้อยทองคงที่

ราคาทองคำอ่อนตัวลง จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐที่มีการขยายตัวขึ้นมากกว่าที่นักลงทุนส่วนใหญ่ประเมิน และได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น รวมถึงสถานการณ์ในยูเครนคลี่คลายลง ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ขานรับรายงานที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นแตะ 55 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน

นอกจากนี้ การที่สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนเริ่มคลี่คลายก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำด้วย โดยล่าสุดมีรายงานว่านายพาฟโล คลิมคิน รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน และนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้เข้าร่วมการประชุมนานหลายชั่วโมงที่เยอรมนี เพื่อหาหนทางคลี่คลายวิกฤตในยูเครน

ทองคำโลกสุดสัปดาห์ร่วงลง ภาพรวมทั้งสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบ ในประเทศเช้าวันเสาร์ลง 100 ทั้งสัปดาห์ลง 200

ราคาทองคำตลาดโลก(Gold Spot)ช่วงสุดสัปดาห์ร่วงลงใกล้ระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ซึ่งได้เป็นกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ราคาทองคำร่วงลงหลังจากที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนกรกฏาคม หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และบ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราคาทองคำร่วงลงกว่า 1% จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นแล้วนั้น ทองคำได้ฟื้นตัวขึ้นจากราคาที่ลดลงหลังมีรายงานสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนกลับเข้ามาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ส่วนภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์นี้(11-15 ส.ค.) พบการเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบระหว่างแคบ 1,311–1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยประเด็นสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐกับสหภาพยุโรปที่สนับสนุนยูเครน นั้นพบว่าสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น หลัง

ทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบ แนวโน้มมีทิศทางฟื้นตัว ในประเทศเงินบาทแข็ง กดทองไม่ให้ขึ้น

ราคาทองคำตลาดโลก(Gold Spot) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดตลาดเมื่อวานนี้ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังนักลงทุนคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่ซบเซาในเดือนกรกฏาคมเมื่อคืนที่ผ่านมา

จากข้อมูลค้าปลีกที่ซบเซาของสหรัฐทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ โดยเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐทรงตัวในเดือนกรกฏาคม ซึ่งนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากตัวเลขเดียวกันเดือนก่อนหน้านี้ขยายตัว 0.2%

ขณะที่ปัจจัยบวกจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงในตะวันออกกลางทั้งฉนวนกาซาและในอิรัก ต่างยังคงเป็นแรงหนุนต่อทองคำที่ถึงแม้ว่าราคาทองจะปรับลดลงแต่ก็ลดลงได้เพียงในกรอบจำกัด