ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง

ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

96.5%รับซื้อขายออก
ทองคำแท่ง40,700.0040,800.00
ทองรูปพรรณ39,961.7641,300.00
วันนี้ -200-50
30 เมษายน 2567เวลา 11:35 น.(ครั้งที่ 5)

ข่าววิเคราะห์ทอง


เช้าทองปรับลงใกล้หลุด $1,300 หลังวันศุกร์ดีดตัวขึ้นแรง กลางสัปดาห์ติดตามประชุมเฟด ในประเทศบาทแข็งต่อเนื่องเช้านี้ทองลง 50


แนวโน้มราคาทองวันนี้เช้าวันนี้ราคาทองปรับลดลงหลังจากเมื่อวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านทองคำดีดตัวขึ้นเหนือโซนรับสำคัญ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดในยูเครนและฉนวนกาซามีเพิ่มมากขึ้น

โดยต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำถูกกดันอย่างหนักจากการแข็งค่าของสกุลเงินสหรัฐ เป็นผลมาจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐที่แสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านตลาดแรงงานและภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสร้างความกังวลใจแก่นักลงทุนที่ว่า แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เนื่องจากหลังการการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งก่อน นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้กล่าวไว้ว่า

หากตลาดแรงงานเติบโตได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ก็เป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ความตึงเครียดทั้งในฉนวนกาซาและยูเครน ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และช่วยพยุงราคาทองให้ปรับลดลงในกรอบจำกัด ซึ่งคาด

สุดสัปดาห์ทองพุ่งกลับขึ้นเหนือ $1,300 หลังหุ้นสหรัฐอ่อนแรง ความกังวลเหตุการณ์ในฉนวนกาซา ในประเทศเสาร์ขึ้น 150


แนวโน้มราคาทองสัปดาห์หน้าศุกร์สุดสัปดาห์ราคาทองตลาดโลกปิดตลาดดีดตัวกลับขึ้นเหนือแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้งหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลง รวมถึงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในฉนวนกาซาและความตึงเครียดในยูเครน โดยจากเมื่อวันก่อนหน้าทองคำเพิ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองพุ่งขึ้นหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง หลังจากมีการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากบริษัทรายใหญ่ๆ อย่างอเมซอนและวีซ่า ซึ่งได้ฉุดบรรยากาศของตลาด ซึ่งทำให้นักลทุนหันมาต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เทรดเดอรยังกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในฉนวนกาซา และความตึงเครียดทางการเมืองดังกล่าวเป็นปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นของราคาทองได้ถูกสกัดไว้ด้วยข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมิถุนายน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนที่แล้ว และตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวขึ้น 0.5%

ทองร่วงต่อเนื่องต่ำสุดรอบ 1 เดือน จากดอลลาร์แข็งเศรษฐกิจสหรัฐสดใส กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย ในประเทศเช้านี้ลงอีก 100


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันโดยร่วงลงไปแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนโดยนับตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. หลังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงนี้ ในขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้อุปสงค์ในทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยปรับตัวลดลง ในประเทศค่าเงินบาททิศทางยังแข็งค่าทำให้ราคาทองในประเทศลดลงมากกว่าปกติ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องและร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนกว่าที่ระดับ 1,290 ดอลลาร์ต่ออนซ์ นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายที่าผ่านมา โดยนักวิเคราะห์มองว่านักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะข้อมูลด้านแรงงานและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งข้อมูลนี้เป็นประเด็นหลักที่ธนาคารกลางสหรัฐจะนำไปพิจารณาแนวโน้มการยุติมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือมาตราการ QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ขณะเดียวกันกระแสคาดการณ์อย่างต่อเนื่องว่าธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี อาจจำเป็นต้องออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทองโลกลดลงหลุดระดับ $1,300 แล้ว จากตลาดหุ้นสหรัฐดึงดูดกว่า ในประเทศบาทยังแข็งเช้านี้ลงอีก 100


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองโลกยังคงปรับลดลงต่อเนื่องล่าสุดเช้านี้หลุดระดับโซนรับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว ซึ่งปัจจัยลบต่อทองคำในขณะนี้มาจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ รวมถึงความน่าสนใจในตลาดหุ้นสหรัฐหลังจาก ดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนในประเทศเงินบาทแข็งค่ายังเป็นแรงกดดันต่อเนื่องให้ราคาทองในประเทศลดลงตามลำดับ

ราคาทองคำอ่อนตัวลงต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์เนื่องจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นนั้น จะให้ทองคำที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ในขณะเดียวกันยังพบว่านักลงทุนโยกเม็ดเงินจากตลาดทองคำกลับเข้าไปลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นตลาดหุ้นนิวยอร์กสหรัฐ หลังล่าสุด ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,987.01 จุด

อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวลงของราคาทองคำอาจจะพอมีแรงหนุนจากความวิตกกังวลจากสถานการณ์ความตึงเครียดจากทั้งในยูเครนและฉนวนกาซาซึ่งยังคงไม่

ทองโลกลดลง จากดอลลาร์แข็ง คาดวันนี้เคลื่อนไหวทรงตัว ในประเทศจับตาเงินบาทแข็ง ทำทองลงแล้ว 200


แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ราคาทองคำตลาดโลก(Gold spot) ปรับตัวลดลง จากการถูกสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดัน ขณะเดียวกันปัจจัยด้านเศรษฐกิจจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่สดใสของสหรัฐได้ลดความน่าสนใจในทองคำลงเช่นเดียวกัน ประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนเริ่มมึสัญญานผ่อนคลายลงเป็นผลให้ทองคำถูกเทขายออกมา อย่างไรก็ตามยังมีความตึงเครียดในฉนวนกาซาที่ยังพอเป็นแรงบวกให้กับทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยได้ในขณะนี้ ส่วนในประเทศเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากได้กดดันให้ราคาทองในประเทศลดลงมากกว่าปกติ

ราคาทองยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากแรงกดดันของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยสกุลเงินอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เพราะจะให้ทองคำที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

ในขณะที่รายงานเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิถุนายน ปรับตัวขึ้น 2.6% และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน

ทองตลาดโลกยังปรับขึ้นจากภาวะความรุนแรงในหลายประเทศ ทองไทยเช้านี้ลง 50 จากวานนี้ลง 100 ผลจากบาทแข็งสุดรอบ 7 เดือน


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย จากแรงหนุนที่มาจากเหตุการณ์รุนแรงในหลายประเทศ ส่วนภาพรวมทองคำเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบแคบมากขึ้น ส่วนในประเทศเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 เดือน ส่งผลเป็นแรงกดดันต่อการปรับขึ้นของทองคำในประเทศ

ราคาทองยังปรับตัวขึ้นตอบรับสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งในยูเครนที่ทวีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่การอิสราเอลเริ่มกลับมาปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาอีกครั้ง และทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐและประเทศในกลุ่มยุโรปต่างเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย หลังจากมีข้อมูลที่เชื่อว่ารัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยิงเครื่องบินสายการบิน มาเลย์เซีย แอร์ไลน์ตกลงในยูเครน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีความวิตกกังวลต่อแนวโน้มมาตราการการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงทิศทาง

แนวโน้มทองคำมีโอกาสปรับขึ้น จากเหตุความรุนแรงในยูเครนและฉนวนกาซา ในประเทศเช้าบาทแข็งทองลง 50


แนวโน้มราคาทองวันนี้ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าต้นสัปดาห์ทองคำปรับตัวลดลงปริมาณค่อนข้างมากหลุดโซนรับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แสดงถึงความแข็งแกร่งโดยเฉพาะตัวเลขดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index) เดือนกรกฏาคมได้ขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ซึ่งปัจจัยนี้เป็นนัยสำคัญที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันทองให้อ่อนตัวลง

อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายสัปดาห์ได้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินมาเลย์เซีย แอร์ไลน์ ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงตกในเขตพื้นที่ข้อพิพาทระหว่างยูเครนและกลุ่มหัวรุนแรงที่ฝักใฝ่รัสเซียรวมถึงความรุนแรงในฉนวนกาซาที่มีเพิ่มมากขึ้น ได้ส่งแรงบวกให้ทองคำดีดตัวกลับขึ้นเหนือโซนรับสำคัญได้อีกครั้ง และคาดว่าประเด็นดังกล่าวข้างต้นจะยังเป็นแรงหนุนต่อทองคำให้ปรับขึ้นได้ต่อในสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้รายงานเศรษฐกิจสหรัฐ ประกอบด้วย ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนมิถุนายน รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้าน

ทองคำโลกลดลงหลังจากพุ่งขึ้นสูงจากบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ตก ในประเทศทั้งสัปดาห์ทองลง 450 วันเสาร์ขึ้น 50


แนวโน้มราคาทอง สัปดาห์หน้าเมื่อวานนี้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวทรงตัวที่ระดับ 1,309-1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี จากความตื่นตระหนักเกี่ยวกับข่าวเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน ส่วนภาพรวมราคาทองทั้งสัปดาห์นี้(7-11 ก.ค.)พบว่าเคลื่อนอ่อนตัวลงตัวเนื่องโดยตั้งแต่ต้นสัปดาห์ต่อเนื่องถึงกลางสัปดาห์จนหลุดโซนแนวรับสำคัญ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดยประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้ทองคำอ่อนตัวลงมาจากที่ นักลงทุนมีความกังวลต่อปัญหาของธนาคารพาณิชย์ในโปรตุเกส รวมถึงคำแถลงของเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่ได้แถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ในเดือนตุลาคมนี้ โดยไม่หวั่นว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำที่ 0-0.25% เป็นระยะเวลาอีกนานพอควร หลังจากยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์จำนองค้ำประกัน

ทองคำพุ่ง หลังข่าวเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐพบตลาดบ้านอ่อนแอ ตลาดแรงงานสดใส


แนวโน้ม ราคาทอง วันนี้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นกว่า 17 ดอลลาร์ และกลับมายืนเหนือโซนรับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังมีรายงานข่าวการก่อการร้ายทั้งการยิงเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ของกลุ่มกบฏในยูเครน และเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล รวมทั้งปฏิบัติการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของสหรัฐและชาติพันธมิตรยุโรป และคาดว่าประเด็นเหล่านี้จะยังเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองในระยะนี้ต่อไป

นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยของยูเครนเปิดเผยว่า กลุ่มกบฎชาวยูเครนได้ยิงเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH-17 ตกลงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารพร้อมลูกเรืออยู่บนเครื่อง 295 คนเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่เหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ก็ยังยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 5 ชั่วโมงแล้วก็ตาม

ส่วนประเด็นการคว่ำบาตรรัสเซียจากทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรปนั้นยังเพิ่มแรงหนุนต่อสถานะของทองคำในขณะนี้ เมื่อล่าสุดสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม

ทองขึ้นเล็กน้อยหลังร่วงหนักกว่า 30$ แนวโน้มอาจอ่อนตัวลงได้อีก ในประเทศ 3 วันทองลงรวม 650


แนวโน้ม ราคาทองวันนี้ราคาทองคำวานดีดตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากช่วง 2 วันก่อนหน้าทองคำร่วงหนักหลุดโซนรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดมาจากแรงซื้อเก็งกำไร แต่โดยรวมแล้วคาดว่าเป็นการดีดตัวทางเทคนิคที่มักเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ และยังต้องระวังแรงขายที่คาดว่ายังจะมีกลับออกมา ขณะที่รายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมายังกดดันทองคำ ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจจากจีนที่สดใสและปริมาณการนำเข้าทองคำจากอินเดียที่เพิ่มมากขึ้นได้กลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำให้สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาสู่ระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง

โดยตลาดทองคำได้รับแรงหนุนหลังจากมีรายงานข่าวว่า อินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มียอดการนำเข้าทองคำในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 65% ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยบวกมาจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่กำลังฟื้นตัวหลังจากที่รัฐบาลดำเนินมาตรการกระตุ้นหลากหลายมาตรการ โดยเฉพาะดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ไตรมาส 2/2557 ได้ขยายตัวขึ้น 7.5% ซึ่งสูงกว่าคาดไว้ และเพิ่มขึ้นมากว่าไตรมาสแรกที่ระดับ 7.4% ประกอบกับนักลงทุนต่างเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจีนพร้อมที่จะออกมาตรการกระตุ้นมากกว่านี้ถ้าจำเป็น

ทองคำร่วง 2 วันติดหลุด 1,300$ หลังดอลลาร์แข็งค่า หลังประธานเฟดแถลงนโยบาย ในประเทศเช้านี้ทองลงอีก 200


แนวโน้มราคาทองวันนี้ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยราคาลดลงหลุดระดับแนวรับจิตวิทยา 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจาก นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารสหรัฐ ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด หากตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง

เมื่อคืนที่ผ่านมา นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารสหรัฐ(เฟด) ได้แถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐ โดยนางเยลเลนยังคงมีท่าทีผ่อนคลายตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยกล่าวว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ แม้ข้อมูลการจ้างงานแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมาและบ่งชี้ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปเป็นระยะเวลานาน หลังโครงการซื้อพันธบัตรจะสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคมนี้ โดยไม่หวั่นว่าอาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ในถ้อยแถลงตอนหนึ่ง นางเยลเลนได้กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในขณะนี้ หากตลาดแรงงานยังคง

ทองร่วงหนักในรอบปีนี้ นักลงทุนโยกเงินเข้าตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงประเด็นอิรัก ธ.โปรตุเกสคลี่คลาย ในประเทศ 2 วันลง 500


แนวโน้มราคาทองวันนี้เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงหนักสุดในรอบปีนี้ เนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าแต่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า อีกทั้งสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางและประเด็นปัญหาการเงินของธนาคารในโปรตุเกสที่เริ่มคลี่คลาย

นักลงทุนเทขายทองคำหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 17,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับซิตี้กรุ๊ป อิงค์ซึ่งเปิดเผยผลกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาดในช่วงไตรมาส 2 โดยผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.93 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 1.05 ดอลลาร์ต่อหุ้น

นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ารัฐบาลอินเดียได้ตัดสินใจคงอัตราภาษีนำเข้าทองคำไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10% ซึ่งตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง