ราคาทองคําวันนี้

เปิดปีใหม่ทองคึกคักดีดตัวขึ้นมาก ในประเทศได้บาทอ่อนช่วยหนุนขึ้น 250 บาท แต่คาดเป็นแค่ระยะสั้น

เปิดศักราชใหม่ปีม้าพยศ 2557 วันแรก 2 มกราคม ราคาทองคำปรับตัวขึ้นปริมาณมากและเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,222-1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดจากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนหลังจากกลับมาจากเทศกาลวันหยุดปีใหม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ราคาทองแกว่งตัวในกรอบแคบและมีมูลค่าการซื้อขายเบาบางตลอดการซื้อขายช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำวันสุดท้ายของปีที่ผ่านมา(31 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 1,202.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นระดับปิดที่ต่ำกว่าวันสุดท้ายของปีก่อนหน้า(2555) อยู่กว่า 28% และหากพิจารณาเป็นรายเดือนพบว่า ทองคำปรับตัวลงทั้งสิ้น 3.8% ในเดือนธันวาคมปี 2556 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และหากเปรียบเทียบเป็นรายไตรมาสพบว่า ทองคำร่วงลงทั้งสิ้น 9% ในไตรมาส 4 ของปี 2556 และถือเป็นการปรับตัวลดลงเป็นปีแรก หลังจากราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันยาวนาน 12 ปี

ทองคำฟื้นตัวระะสั้นหลังหยุดคริสต์มาส ในประเทศบาทอ่อนหนักรอบ 4 ปีบวกทองเพิ่มอีกวันนี้ 100 บาท

ราคาทองคำตลาดโลกกลับมาเปิดตลาดหลังวันหยุดคริสต์มาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบ และสามารถยืนเหนือแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรนักลงทุน หลังจากราคาทองคำร่วงหลุดจากระดับ 1,200 ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนแนวโน้มและทิศทางของราคาทองคำ ระยะสั้นสามารถฟื้นตัวดีดกลับขึ้นมาได้ แต่ในระยะกลาง และระยะยาว ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อไป จากประเด็นการปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ จากการที่เศรษฐกิจของสหรัฐเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสนับสนุนให้เฟด ปรับลดขนาดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ลงทีละน้อยในปีหน้า
เมื่อคืนที่ผ่านมามีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญอย่าง ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรอบสัปดาห์ พบว่า ปรับตัวลง 42,000 ราย อยู่ที่ระดับ

ทองยังแกว่งตัวแคบ เข้าสู่ช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ ในประเทศได้บาทอ่อนหนุน เปิดตลาดขึ้น 100

ภาพรวมของราคาทองคำในช่วงนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องจากต้นสัปดาห์ โดยราคาแกว่งตัวอยู่บริเวณ 1,196-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยส่วนใหญ่นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์ต่อเนื่องปีใหม่ และคาดว่าแนวโน้มตลอดทั้งสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาด ก่อนหยุดช่วงเทศกาลคริสมาสต์ พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ที่ 1,203.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสามารถกลับขึ้นมาเคลือนไหวเหนือระดับแนวรับทางเทคนิคที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง หลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร จากที่สัญญาทองคำร่วงหลุด 1,200 ดอลลาร์ เมื่อวันจันทร์(23) ที่ผ่านมา

ส่วนเมื่อวานนี้มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำถึงแม้จะไม่ทำให้ภาพการเคลื่อนไหวผันผวนมากนัก แต่มีนัยสำคัญต่อภาพ

คาดทองแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงสัปดาห์นี้ โดยแนวรับอยู่ที่ $1,180 ในประเทศยังได้แรงหนุนจากเงินบาทอยู่

ภาพรวมราคาทองคำตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา(16-20) ปรับตัวลดลงอย่างหนัก จากการประกาศปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารคารกลางสหรัฐลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความน่าสนใจการลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อ นั้นมีน้อยลง และจากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันสกุลเงินต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งทองคำให้เคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับทางเทคนิคบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือนนับตั้งแต่ที่ปรับตัวลดลงถึงจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้สร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุนว่า การประกาศลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารทางเงินอื่นๆ นี้ จะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมกราคมปีหน้า แต่เหตุใดราคาทองกลับถูกกดดันอย่างหนักขนาดนี้

อย่างไรก็ตามวันสุดท้ายของสัปดาห์(ศุกร์ 20) ราคาทองคำกลับฟื้นตัวขึ้นได้จากแรงซื้อทางเทคนิค หลังจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำหลังจากที่ราคาร่วงหลุด

ทองร่วงหนักหลุด $1,200 ผ่านดอลาร์แข็งค่า หลังเฟดลด QE แนวโนมยังลงต่อ ในประเทศโชคดีเงินบาทอ่อนพยุงราคาไว้

ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและเมื่อวานนี้วันเดียวร่วงหนักว่า 3% และหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแกว่งอยู่เหนือแนวรับระดับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถือเป็นระดับที่ใกล้เคียงจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปีอยู่แค่ 20 ดอลลาร์ เท่านั้น ซึ่งทิศทางและแนวโน้มยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ

โดยเมื่อวานนี้สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดตลาด ร่วงลงอย่างหนักกว่า 3% หรือ 41.40 ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,193.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นสัญญาปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ในการประชุมเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยเฟดประกาศลดวงเงินซื้อพันธบัตรลงไป 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำดิ่งลงด้วย

ข้อมูลจาก Reuters รายงานว่า ราคาทองคำได้ปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,180.71 ดออลลาร์ต่ออนซ์ ในวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้มีการ

จับตามผลประชุมเฟดคืนวันนี้ คาดมีผลทั้งบวกและลบกับราคาทอง ในประเทศเปิดตลาดคงที่ หลังเมื่อวานขึ้นแล้ว 150 บาท

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวขึ้นลงผันผวนก่อนรายงานผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ในคืนวันนี้(02.00 น.)ต่อเนื่องเช้าวันพรุ่งนี้ โดยนักลงทุนต่างจับตาผลการประชุมว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดขนาดปริมาณการซื้อพันธบัตรและสินทรัพย์อื่นซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนลงอย่างที่กลัวกันตอนนี้หรือไม่

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลงในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งซึ่งแสดงถึงความเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐรวมถึงสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องงบประมาณในการใช้จ่ายอีก 2 ปีข้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางลงได้ ซึ่ง แซม สโตวัลล์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของ เอสแอนด์พี แคปิตัล ไอคิว คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะประกาศลดปริมาณการซื้อพันธบัตรต่อเดือนลงราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะที่ยังมีนักวิเคราะห์บางส่วน คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังไม่มีการประกาศปรับลดปริมาณการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากอาจมีผล