| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 51,350.00 | 51,450.00 |
| ทองรูปพรรณ | 50,316.04 | 52,250.00 |
| วันนี้ -400 | -400 | |
| 07 มิถุนายน 2568 | เวลา 09:05 น. | (ครั้งที่ 1) |
ราคาทองนิวยอร์คพุ่ง 32.5 ดอลลาร์ หรือ 2.61% ปิดที่ 1,279.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเฟดประกาศเดินหน้า QE-ดอกเบี้ยต่ำ หนุนเศรษฐกิจ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (14 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายและตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ที่ระดับต่ำต่อไป
ราคาทองคำในตลาดโลก(Gold spot) เมื่อคืนนี้(อังคารที่ 9 กรกฏาคม)ปรับเพิ่มขึ้น 11.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,245.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อ หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค ของจีน ปรับเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และประกอบกับแรงซื้อทางเทคนิคหลังจากราคาทองคำดีดตัวผ่านแนวต้านสำคัญทางเทคนิค ส่วนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ก็ยังคงเป็นเป็นปัจจัยกดดันราคาทองต่อไป
ส่วนคืนนี้ติดตาม รายงานการประชุมของ FOMC ประจำเดือนมิถุนายนที่จะออกมาคืนนี้เวลา ตีหนึ่ง(1.00)ตามเวลาในประเทศไทย และการแถลงการณ์ของนาย เบน เบอร์นันเก้ ประธาน FED ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้มากที่สุด
ราคาทองคําในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 12.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ 1,235.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนเช้าวันนี้เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ มาจากการปรับฐานทางเทคนิค ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อีกทั้งความไม่สงบในประเทศอียิปต์ที่ยังไม่คลี่คลาย พร้อมทั้งความไม่แน่นอนในกลุ่มยูโรโซน โดยเฉพาะการรับเงินช่วยเหลือของกรีซ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ก็ปัจจัยเกื้อหนุนราคาทองคํา ส่วนราคาทองคำในประเทศที่ปรับเพิ่ม 300 บาท เมื่อเช้านี้จากการประกาศของ สมาคมค้าทองคำ ปัจจัยส่วนหนึ่งก็มาจาก เงินบาทที่เริ่มอ่อนค่า จากเมื่อวานนี้ ถึง 31.50 บาทต่อดอลลาร์
กลุ่มบริษัท MTS Gold Futures มองว่า โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลง แต่ในวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวเป็นลักษณะ Sideways ในกรอบ
สภาวะะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2556
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,216.38-1,228.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 18,400 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,360 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.20 น.ของวันที่ 08/07/13)
แนวโน้มราคาทองคำพรุ่งนี้(อังคารที่ 9 กรกฎาคม 2556)
ราคาทองคำพยายามปรับตัวขึ้นภายหลังจากที่สามารถยืนเหนือ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อย่างไรก็ตามท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินโลก ซึ่งเกิด
– ทองร่วงรับรายงานจ้างงานสหรัฐดีกว่าคาด
– SPDR ถือทองลดลง 2.7 ตัน
– ทองยังมีแนวโน้มอ่อนตัว ระยะสั้นคาดดีดตัวทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างรุนแรงในการซื้อขายช่วงค่ำของวันศุกร์ หลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนล่าสุดออกมาดีกว่าคาด โดยราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา จนราคาเริ่มดีดตัวลดช่วงการติดลบลง
ศูนย์วิจัยทองคำ เเปิดเผยผลสำรวจเป้าหมายราคาทองคำจากผู้ค้าทองคำประจำเดือนกรกฏาคม พบว่า ผู้ค้าทองคำส่วนใหญ่มอง ราคาทอง มีการฟื้นตัวสลับกับทรงตัว โดยคาดว่าราคาทองจะเคลื่อนไหวเฉลี่ย โดยกรอบสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,300-1,400 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ และ กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ระหว่าง 1,150-1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำชนิดที่นิยมซือขายกัน ในบ้านเรา คือชนิดความบริสุทธิ์ท่ 96.5% ให้กรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดอยู่ระหว่าง 19,000-20,500 บาทต่อบาททองคำ และ กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดจะอยู่ระหว่าง 17,000-18,500 บาทต่อบาททองคำ โดยมี 5 ประเด็นหลักที่เชื่อว่าจะกระทบราคาทองคำ ซึ่งแยกเป็นปัจจัยเชิงลบ 3 ปัจจัยด้วยกันคือ
ราคาทองคําตลาดโลกปิดตลาดเมื่อคืนนี้(พฤหัสบดีที่ 4 กรกฏาคม) ที่ 1,249.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 1.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาซื้อขายทองคำในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ทองคำแท่ง ขายออกที่บาทละ 18,500 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,400 บาท ทองรูปพรรณ ขายออกที่บาทละ 18,900 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,131.36 บาท ส่วนกองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือทอง โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 964.69 ตัน
วันนี้ช่วงค่ำ(ศุกร์ที่ 5 กรกฏาคม 56)ติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญและมีผลต่อการคาดการณ์เรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ซึ่งหาก
วันนี้(พฤหัสบดที่ 4 กรกฏาคม)ราคาทองคำตลาดโลก(Gold spot) เคลื่อนไหวในกรอบที่ระดับ 1,245-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาค่อนข้างไร้ทิศทาง ซึ่งแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เปิดเผยออกมาเมื่อคืนนี้ เพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม แต่อัตราการขยายตัวของภาคบริการชะลอลงในเดือนมิถุนายน พร้อมทั้ง ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐก็เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักมีการอ่อนค่าลง ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.07-31.10 บาทต่อดอลลาร์ และ ราคาทองคำที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ เคลื่อนไหว 3 ครั้งตั้งแต่ตอนเช้าที่เปิดตลาดมา เพิ่มขึ้น 100 บาท และปรับเพิ่มและลดอีกอย่างละครั้ง ทำให้ปิดตลาด ทองคำแท่ง รับซื้อ 18,400 ขายออก 18,500 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 18,131.36 บาท ขายออก 18,900 บาท เท่ากับตอนเปิดตลาดเมื่อเช้า