ราคาทองคําวันนี้

ปลายสัปดาห์ทองฟื้นตัวขึ้นได้ จากดอลลาร์อ่อนค่าและในยูเครนกลับมาตึงเครียด สัปดาห์นี้ในประเทศลงรวม 600 บาท

ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกหลังจากรัสเซียควบรวมไครเมีย โดยภาวะเช่นนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง

โดยล่าสุดนั้น สหรัฐได้ขยายขอบเขตการคว่ำบาตรรัสเซีย จากกรณีที่รัสเซียได้แทรกแซงเขตปกครองตนเองไครเมียของยูเครน ซึ่งการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ และประเทศพันธมิตรในยุโรปได้ออกมาเตือนว่า การดำเนินการเพื่อดึงไครเมียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียนั้น จะนำไปสู่การใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม รวมทั้งการใช้มาตรการแบ่งแยกทางการทูต

ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันหลังที่ร่วงลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ทองคำก็ยังคงปรับตัวย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์นับแต่เดือน

ทองลงแล้ว 4 วันติด จากเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยและยูเครนคลี่คลายไปในทางที่ดี ในประเทศสวนทางเช้านี้ขึ้น 100

ราคาทองคำปรับตัวลงติดต่อเข้าวันที่ 4 ตั้งแต่วันจันทร์ต้นสัปดาห์ร่วม 3.66% หลังประเด็นแรกเริ่มที่กระตุ้นให้ทองคำดีดตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้ามาจากสถานการณ์ในยูเครนที่มีความตึงเครียด และเมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายลงราคาทองก็เริ่มร่วงลง ในขณะเดียวกันประเด็นที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง อีกทั้งยังมีข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีรายงานออกมาตลอดทั้งสัปดาห์ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อราคาทองในขณะนี้

โดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยรวมพบว่าออกมาดีเกินคาด โดยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนกุมภาพันธ์พุ่งขึ้น 0.5% ขณะที่ ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิดแอตแลนติกพุ่งขึ้นแตะระดับ 9 โดยทั้งสองรายงานนี้พบว่าเป็นปรับตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พบว่าเพิ่มขึ้น 5,000 ราย แต่ก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด และตัวเลขยอดขายบ้านมือสองเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 0.4% และเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนกรกฎาคมปี 55 ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้

ทองร่วงต่อเนื่อง 3 วันติด ประเด็นเฟดลดQEและอาจจะขึ้นดอกเบี้ยกดดัน ในประเทศลงไปแล้ว 650 รวมเช้านี้

ราคาทองคำปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากวิกฤตในยูเครนที่เริ่มคลี่คลายในระยะสั้นจากคำกล่าวของประธานาธิบดีรัสเซีย ในขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐก็เป็นไปตามที่คาด เมื่อคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหหรัฐ(FOMC) มีมติลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรต่อเดือนลงต่อเนื่องจากกการประชุม 2 ครั้งก่อน อีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน รวมทั้งยังมีการส่งสัญญาณจากประธานธนาคารกลางสหรัฐว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก หลังยุติการผ่อนคลายทางการเงินไปแล้วกว่า 6 เดือน

โดยหลังจากทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งมีมติปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากระดับเดิม 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินได้ในเดือนเมษายนปีนี้ ในขณะเดียวกัน นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนใหม่ยังได้ส่งสัญญานความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เริ่มปรับลดการ

ทองร่วงต่อเนื่อง 2 วันหลังยูเครนผ่อนคลายลง แต่ยังต้องจับตาต่อ ในประเทศบาทแข็งร่วมเช้านี้ลงอีก 100 เมื่อวานลง 300

ราคาทองปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และทำสถิติปิดตลาดต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์หลังจากราคาปรับตัวขึ้นมามากในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อคืนนี้สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์คปิดตลาดที่ระดับ 1,359 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และพบว่าเป็นการปรับตัวลดลงไป 13.9 ดอลลาร์ ซึ่งประเด็นหลักมาจากที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ภายหลังจากผู้นำรัสเซียที่ได้แถลงต่อสาธารณะผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ว่ารัสเซียไม่ต้องการดินแดนส่วนอื่นของยูเครนอีก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและกลับเข้าลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงตลาดหุ้น จึงเป็นผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น 2 วันทำการสวนทางกับตลาดทองคำ

และหลังจากสถานการณ์ในยูเครนเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีนั้น ทำให้นักลงทุนหันเหความสนใจจากเรื่องดังกล่าวไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ที่จะทราบผลการประชุมในช่วงค่ำของวันนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือน

ทองลง จากแรงขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นสหรัฐแข็งแกร่ง จากเหตุการณ์ในไครเมียปกติ ในประเทศลงแรง 300 บาท

ราคาทองคำปรับตัวลง หลังการลงประชามติของประชาชนในไครเมียเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น โดยผลการลงประชามติเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เมื่อชาวไครเมียร้อยละ 96.77 ต้องการแยกตัวออกจากยูเครนและไปรวมกับรัสเซีย และรัฐสภาไครเมียได้ประกาศอิสรภาพจากยูเครนไปแล้วเมื่อวานนี้ อีกทั้งยังมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาทั้ง ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index) เดือนมีนาคม และ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มขายทองทำกำไรและโยกเงินกลับเข้าตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ทองคำถูกกดดันให้ปรับตัวลดลง หลังจากราคาปรับขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ไม่มีสัญญาณความตื่นตระหนกของนักลงทุนในตลาดทองคำหลังการลงประชามติของประชาชนชาวไครเมียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับปฏิกริยาของสหภาพยุโรป(อียู) และสหรัฐที่จะมีต่อรัสเซีย ซึ่งหากมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร

ทองทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งคาดทะลุ $1,400 จับตาสถานการณ์ยูเครน รวมทั้งประชุมเฟดกลางสัปดาห์ ในประเทศเช้านี้ขึ้น 50

ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งประเด็นหลักที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำในขณะนี้มาจากความตึงเครียดในแถบคาบสมุทรไครเมียเขตปกครองตนเองของยูเครน ซึ่งล่าสุดหลังการลงประชามติของประชาชนในไครเมียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 95% ต้องการจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และจากผลการลงประชามตินี้น่าจะทำให้เกิดความตึงเครียดในยูเครนมีมากขึ้น และจับตาดูท่าทีจากชาติตะวันตกรวมทั้งสหรัฐว่า จะมีการตอบโต้และมาตราการใดๆ ต่อรัสเซีย

และหลังจากนี้เป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่า สถานการณ์ในยูเครนจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากสถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นคาดว่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำให้พุ่งทะยานต่อไปได้ ซึ่งนักวิคราะห์เชื่อว่าจะได้เห็นราคาทองพุ่งขึ้นเหนือ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไม่ช้านี้

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งยังเชื่อว่า ราคาทองจะถูกสกัดกั้นจาการปรับลดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ มาตราการ QE ที่