ลุ้นหุ้นไทยภาคบ่ายพุ่งต่อ หลังช่วงเช้า(พุธที่ 27 มี.ค.56)บวก 18 จุด ตามตลาดตลาดต่างประเทศ
โดยบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (พุธที่ 27 มี.ค.2556) ดัชนีรีบาวน์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ตามตลาดต่างประเทศ ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีต่ำสุดที่ 1,553.57 จุด และปรับตัวสูงสุดที่ 1,564.82 จุด ก่อนปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,562.25 จุด เพิ่มขึ้น 18.22 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 34,192.99 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 521 หลักทรัพย์ ลดลง 126 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 87 หลักทรัพย์
สำหรับ 5 อันดับที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.TIPCO บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 12.00บาท +1.90 (+18.81%)
2.MLINK บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 4.86บาท +0.60 (+14.08%)
3.INTUCH บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 80.50 บาท +2.00 (+2.55%)
4.TRUE บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 8.10บาท +0.10 (+1.25%)
5.DEMCO บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 16.50บาท +1.00 (+6.45%)
นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวานนี้ เนื่องจากมีปัจจัยบวก จากการทำราคาปิดช่วงสิ้นไตรมาส และกองทุนทิกเกอร์ฟันด์ที่ทยอยออกในช่วงนี้ ประกอบกับดัชนีฯ มีการรีบาวน์อย่างต่อเนื่อง หลังปรับตัวลดลงแรง เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้การที่ดัชนีฯ รีบาวน์อย่างต่อเนื่อง นั้นเพราะปัจจัยพื้นฐานในตลาดหุ้นไทยยังไม่เปลี่ยน ทำให้เมื่อดัชนีฯ ปรับตัวลดลงก็มีแรงซื้อกลับ
คาดแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์บ่ายนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ โดยปัจจัยบวกมาจาก แรงสนับสนุนการทำราคาปิดช่วงสิ้นไตรมาส และการนำ พ.ร.บ. กู้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐมูลค่า 2.2 ล้านบาท เข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีช่วงปลายสัปดาห์ รวมทั้งคาดว่ามีแรงเก็งกำไรจากการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้าที่คาดว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้นักลงทุนอาจเข้ามาเล่นเก็งกำไรในส่วนนี้ นอกจากนี้ ดัชนีฯ ยังมีปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับเพิ่มประมาณการ เติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ จีดีพี ในปี 2556 ขึ้น จากเดิมคาดการณ์ว่าจีดีพีจะเติบโต4.9% ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าประเด็นดังกล่าวน่าจะมีความชัดเจน
อย่างไรก้ตามให้นักลงทุนระมัดระวังแรงขายทำกำไรแถมบริเวณแนวต้าน 1565 จุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดแรงขายทำกำไรเมื่อดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุน ซื้อ เมื่อดัชนีฯ ปรับตัวลดลง และถือโดยยังไม่ขายออกมา เนื่องจากประเมินภาพในระยะกลางดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมประเมินแนวต้านที่ 1,565-1,568 จุด ส่วนแนวรับประเมินที่ 1,550-1,545 จุด
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ