วิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง โดย เอ็มทีเอส โกลด์(MTS Gold)
โดย ราคาทองคำเมื่อวานนี้(อังคารที่ 28 พ.ค.56) เปิดตลาดที่ระดับ 1,391 เหรียญต่อออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,390 (22.30 น.) เหรียญต่อออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.04 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองคำเมื่อวานนี้(อังคารที่ 28 พ.ค.56) เปิดตลาดที่ระดับ 1,391 เหรียญต่อออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,390 (22.30 น.) เหรียญต่อออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.04 บาทต่อดอลลาร์
ราคาสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ทองคำแท่งชนิด 96.5% เปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท และกลับมาปิดที่ 19,600 บาท กับ 19,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 899 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 2,355 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 1 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.2% แบบ 10 บาท ลดลง 1.3%
Silver Futures ทรงตัวเท่าเดิม GFM13 ปิด 19,870 บาท และ GFQ13 ปิด 19,930บาท GF10M13 ปิด 19,870 บาท GF10Q13 ปิด 19,940 บาท
ข่าวที่สำคัญ
- ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาเมื่อคืนดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 5 ปี รวมไปถึงดัชนีราคาบ้าน 20 เขตของสหรัฐก็ปรับตัวสูงขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี
- นอกจากนี้ ยังมีข่าวสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐจากการที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับมุมมองระบบธนาคารสหรัฐจากติดลบเป็นมีเสถียรภาพ
- นายอัสมุสเซนจากอีซีบีกล่าววานนี้ว่า อีซีบีมีโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับติดลบ
- ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,401 เหรียญ แต่ไม่สามารถยืนอยู่ได้ จึงมีแรงเทขายกลับเข้ามาอีก ปิดตลาด COMEX ที่ 1378.9 เหรียญ
- หลังจากสหรัฐปิดตลาดไป 1 วัน SPDR ก็กลับมาขายต่ออีก 3.91 ตัน คงเหลือทองอยู่ที่ 1,012.25 ตัน ต่ำสุดในรอบมากกว่า 4 ปี
- เจ.พี. มอร์แกน คาเซ่โนฟ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในปีนี้เหลือ 1,595 เหรียญ จาก 1,745 เหรียญ โดยในระยะสั้นนักวิเคราะห์ลดมุมมองราคาทองคำลงเหลือ 1,450 เหรียญในไตรมาสที่ 2
- แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริ่ล ลินช์ คาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยในปีนี้ลดลง 12% เหลือ 1,478 เหรียญ
- สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวว่า ปีนี้กองทุนขายทองออกมาแล้วประมาณ 450 ตัน เทียบเท่าได้กับผลผลิตทองคำจากเหมืองทั้งหมดในแอฟริกาและแอฟริกาใต้
- ข้อมูลจากบลูมเบิร์กระบุว่า คอมเมิร์ซแบงก์ระบุในรายงานว่า ในไตรมาสที่ 2 เพียงไตรมาสเดียว มีการขายทองคำออก 291 ตันจากกองทุน ETF
- ปริมาณการซื้อขายทองคำเมื่อวานนี้เกือบถึง 410,000 ล็อต เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเมื่อวานสัญญาออพชั่นหมดอายุลง และตลาดกลับมาซื้อขายหลังจากปิดไป 1 วัน
- โรงกษาปณ์สหรัฐกล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีการผลิตเหรียญทองคำขนาดเล็กได้เพียงพอที่จะกลับมาขายอีกครั้ง หลังจากสินค้าหมดคลังรัฐบาลไปเมื่อ 1 เดือนก่อน
- นักวิเคราะห์จาก บีเค แอสเสท แมเนจเมนท์ กล่าวกับ CNBC ว่า การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางไม่เพียงพอที่จะหยุดการปรับตัวลดลงของราคาทองคำได้ เป็นแค่เพียงพักการตกเท่านั้น เพราะถ้าไม่มีการเข้าซื้อล่าสุดเชื่อว่าราคาตอนนี้อาจลงไปใกล้ระดับ 1,200 เหรียญแล้ว
- ค่าพรีเมี่ยมของทองคำในอินเดียลดลงอยู่ที่ 3 – 3.5 เหรียญ จากเดิม 10 – 12 เหรียญ และฮ่องกงปรับตัวลดลงเหลือ 3 เหรียญ จาก 5-6 เหรียญในสัปดาห์ที่แล้ว ส่งสัญญาณว่าการเข้าซื้อทองคำได้อ่อนแอลง
- คืนนี้เวลาเที่ยงคืน สมาชิกเฟดสาขาบอสตัน นายโรเซนเกร้น กล่าวเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจ โดยเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ลงมติในการประชุม ล่าสุดเขากล่าวเมื่อวันที่ 16 ว่า เฟดยังจำเป็นต้องผ่อนคลายการเงินต่อไป
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
 – CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 69.0 ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 76.2
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
 -ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทิศทางราคาทองคำ
 ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเมื่อวานออกมาสองตัวดีขึ้น อันได้แก่ CB Consumer Confidence ปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 5 ปีและดัชนีราคาบ้าน 20 เขตสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น12% ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี ทำให้ราคาทองคำปรับตัวในทิศทางขาลง อย่างไรก็ดีจะเห็นการแกว่งของราคาขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,400 เหรียญในช่วงสั้นๆ และเกิดแรงเทขายลงมา สรุปคร่าวๆ ได้ว่า วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การข่าวระบุการขายทองคำของ ETF 450 ตัน ซึ่งถือว่าขายออกมาค่อนข้างมากในปีนี้ และ SPDR ยังขายต่ออีก 3.91 ตันเมื่อวานนี้ เหลือทองคำเพียง 1,012.25 ตัน โดยที่ปริมาณความต้องการซื้อ Physical เริ่มอ่อนแอบ้างเล็กน้อย จะเห็นได้จากค่าพรีเมี่ยมในอินเดียและฮ่องกงปรับตัวลดลงบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับสูงที่ 3-3.5 เหรียญต่อออนซ์อยู่
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
 ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Sideways อีกตามที่กล่าวมาแล้ว แต่ปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆ โดยที่เป็นลักษณะ Sideway Down กรอบแนวต้านด้านบนอยู่ที่ 1,390 เหรียญ แนวรับด้านล่างอยู่ที่ระดับ 1,370 เหรียญ ถ้าหลุดระดับ 1,370 เหรียญไป คงจะไปทดสอบที่ระดับ 1,350 เหรียญ และ 1,325 เหรียญซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
 แนะนำให้ปิดสถานะ Long Position โดยที่ราคาทองคำของไทยยังเป็นตัวช่วยจากค่าเงินบาทที่ปรับอ่อนค่าลงเกือบ 20 สตางค์ในวันนี้มาอยู่ที่ 30.14 บาทต่อดอลลาร์ เป็นตัวพยุงราคาทองคำของไทย
นักลงทุนถือ Long Position
 -แนะนำให้ปิดสถานะ Long มากกว่าที่จะถือครอง
นักลงทุนที่ถือ Short Position
 -ทำการ Short เพิ่มในระดับแนวต้าน และซื้อปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ ในระดับแนวรับ
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,950 บาท
 Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,020 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ที่มาโดย : ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net
ทองคําฟื้น แต่ต้องจับตาหลังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนผ่อนคลายลง
ประธานเฟดส่งสัญญาณยังไม่สรุปลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.ฉุดทองคําร่วง
แรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยกดดันทองคํา ดึกคืนนี้จับตาผลประชุมเฟด
เจรจาการค้าสหรัฐ-จีนคลี่คลายฉุดแรงเทขายทองคําโลก-ไทยร่วงหนัก
ทองคําพักฐานลงจากสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้จับตาการประชุมเฟด
ทองคําปรับเพิ่มขึ้น หลังเงินเฟ้อสหรัฐลดลงหนุนเฟดลดดอกเบี้ย
ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์หนุนแรงซื้อทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้น
 กำลังโหลดข้อมูล
 กำลังโหลดข้อมูล  ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
| 96.5% | รับซื้อ | ขายออก | 
|---|---|---|
| ทองคำแท่ง | 61,300.00 | 61,400.00 | 
| ทองรูปพรรณ | 60,079.08 | 62,200.00 | 
| วันนี้ 250 | 250 | |
| 31 ตุลาคม 2568 | เวลา 09:09 น. | (ครั้งที่ 1) | 
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวค่าเงิน, ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง
 ราคาทองคําวันนี้
ราคาทองคําวันนี้
เขียนความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของคุณ