สัปดาห์นี้ จับตาตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ มีผลต่อราคาทอง
โดยราคาทองยังปรับตัวในกรอบแคบๆ หลังนักลงทุน ยังไม่มั่นใจเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ด้านนักวิเคราะห์ แนะ สัปดาห์นี้จับตา ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ…
มีแรงขายกลับออกมาอีกครั้งในการซื้อขายช่วงค่ำของวันศุกร์ จนราคาทองกลับปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวที่แนวรับบริเวณ 1,700-1,710 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง โดยนักลงทุนยังไม่มั่นใจเรื่องการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ หลังจากสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน ยังไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับปัญหานี้ได้
โดยราคาทองเมื่อวันศุกร์ปิดตลาดที่ 1,714.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลงจากระดับปิดของวันพฤหัส 10.77 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,713 และ 1,728 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 25,000 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,900 บาท กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ถือครองทองคำแท่งขนาดใหญ่รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีการปรับเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำขึ้น 1.81 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,348.83 ตัน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ภาคการผลิตของจีนขยายตัวมากที่สุดในรอบ 7 เดือนในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตอกย้ำมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจจีน จะฟื้นตัวมากขึ้นในไตรมาส 4 ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้นสู่ 50.6 ในเดือนพฤศจิกายนซึ่งสอดคล้องกับความเห็นนักวิเคราะห์ และเป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงว่า ภาคการผลิตของจีนกำลังขยายตัวมากขึ้นจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น เศรษฐกิจจีนขยายตัว 7.4% ในไตรมาส 3 ซึ่งชะลอตัวเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน และทำให้มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1999 ในปีนี้
ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือกรีซนั้น ในช่วงเย็นวันศุกร์ สภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนีได้ลงมติ รับรองมาตรการช่วยเหลือกรีซแล้ว โดยสมาชิกสภาให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 473 เสียงไม่เห็นชอบ 100 เสียง ขณะที่งดออกเสียง 11 เสียง จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 584 เสียง มาตรการที่ได้รับการอนุมัติในครั้งนี้ มีการตั้งเป้าที่จะปรับลดภาระหนี้ของกรีซลงสู่ 124% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศภายในปี 2020 จึงทำให้ความกังวลปัญหานี้ลดลงได้ในระดับหนึ่ง ตลาดยังคงให้ความสนใจเรื่องปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถหาข้อตกลงระหว่างสมาชิกจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้
และนอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ในสัปดาห์นี้จะมีการรายงานตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งในการรายงานเดือนก่อนนั้น ตัวเลขอัตราการว่างงานและตัวเลขการจ้างงานโดยรวมของสหรัฐฯออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน จนมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นผลจากประเด็นการเมืองที่ใกล้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ดังนั้นในการรายงานครั้งนี้ จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุน ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิคนั้น คงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมามากหากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ และคาดว่าราคาทองจะปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวขึ้นได้ต่อไป
ข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรงทะลุระดับ 2,700$
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 0 | 0 | |
23 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:00 น. | (ครั้งที่ 1) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ