สัปดาห์หน้าติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
โดยสัปดาห์นี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway up โดยปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของผู้นำจีนในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากที่มีการประชุมสภาประชาชนในวันอังคารที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ทางสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาญี่ปุ่นให้ความเห็นชอบแต่งตั้ง นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นเริ่มดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุกมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถดถอยของญี่ปุ่น ทันทีที่นายคุโรดะเข้าดำรงตำแหน่งในสัปดาห์หน้า นายคุโรดะได้สนับสนุนการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว เพื่อเพิ่มงบดุลของบีโอเจและเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำถูกแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งยอดค้าปลีกและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นและทำให้ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีนิกเกอิ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี และในรอบ 4 ปีครึ่ง
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ทั้งการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและการใช้มาตรการ QE ถึงแม้ว่าตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ จะปรับตัวดีขึ้นมากก็ตาม ซึ่งคาดว่านักลงทุนจะมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงจะใช้มาตรการ QE ต่อไป นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยรายไตรมาส ที่จะแสดงถึงมุมมองเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ส่วนทางยุโรปก็ต้องติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของอิตาลี จากผลการเลือกตั้งอิตาลีที่ไม่มีพรรคการเมืองใดครองที่นั่งได้มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเด็ดขาด และสิ่งนี้บ่งชี้ถึงแนวโน้มในเชิงลบสำหรับการปฏิรูปเศรษฐกิจและมาตรการปรับลดหนี้ของอิตาลี รัฐสภาอิตาลีจะเปิดการประชุมในวันศุกร์ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นก็เป็นที่คาดกันว่า ประธานาธิบดีของอิตาลีจะเริ่มการปรึกษาหารืออย่างเป็นทางการกับผู้นำพรรคการเมืองในวันอังคารที่ 19 มี.ค. เพื่อประเมินว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ แต่หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ อาจมีแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับเข้ามา ราคาทองคำมีแนวรับที่บริเวณ 1,575-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,565-1,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,615-1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:35 น. | (ครั้งที่ 8) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ