สัปดาห์หน้าประชุมธนาคารกลางสหรัฐครั้งสุดท้ายของปีนี้
โดยสัปดาห์นี้มีแรงเทขายทองคำอย่างต่อเนื่องจนทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับจิตวิทยาที่ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ทำให้เกิดเป็นสัญญาณขายในทางเทคนิคจนราคาปรับฐานลงต่ำสุดที่ 1,685 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำในสัปดาห์นี้กลับปรับตัวลงสวนทางกับค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากแรงเทขายจากกองทุน นอกจากนี้โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดประมาณการราคาทองปี 2013-2014 และระบุว่าวัฏจักรช่วงขาขึ้นของราคาทองในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในปีหน้า โกลด์แมน แซคส์ ประมาณการราคาทองในช่วง 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่ 1,825, 1,805 และ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ และคาดว่าราคาทองอาจอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปี 2014 ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเดือนพฤศจิกายนที่ประกาศในสัปดาห์นี้หลายตัวออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศของ ADP ดัชนี ISM ภาคการผลิต ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่นักลงทุนติดตามคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานที่ประกาศในคืนวันศุกร์ ทางด้านยุโรปการประชุมธนาคารกลางยุโรปยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.75% แต่มองว่าเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มถดถอยลงในปีหน้า ทำให้ตลาดคาดธนาคารกลางยุโรปอาจจะส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
สัปดาห์หน้ามีประเด็นที่สำคัญที่ต้องติดตาม คือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันอังคารและวันพุธซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่ประกาศในสัปดาห์นี้มีผลต่อแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ สำหรับมาตรการ Operation Twist ที่จะหมดอายุลงสิ้นปีนี้นั้น มีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะไม่ดำเนินการต่ออายุมาตรการดังกล่าว ทำให้ตลาดมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะประกาศดำเนินมาตรการ QE4 ในการประชุมครั้งนี้หรือการประชุมครั้งถัดไปในเดือนมกราคมปีหน้า แต่เราคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจจะไม่ขยายวงเงินในการเข้าซื้อหลักทรัพย์หรือมาตรการ QE4 ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้สหรัฐฯยังมีประเด็นที่สำคัญคือการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า โดยที่ในสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีโอบามาได้เปิดเผยกับกลุ่มซีอีโอ Business Roundtable ว่าอาจจะมีการบรรลุข้อตกลงเรื่อง fiscal cliff ภายใน 1 สัปดาห์หากสมาชิกพรรครีพับลิกันยอมรับความจำเป็นในการปรับขึ้นภาษีคนรวย ราคาทองคำในสัปดาห์หน้าคาดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในกรณีที่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,675- 1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,720 และ 1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ แต่กรณีที่ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าว ทิศทางราคาทองคำในระยะยาวจะเป็นกลับเป็นขาลง
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ดอลลาร์แข็งค่า-พันธบัตรสหรัฐพุ่ง ฉุดทองคำโลกทองไทยร่วงลงหนัก
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,600.00 | 43,700.00 |
ทองรูปพรรณ | 42,811.84 | 44,200.00 |
วันนี้ 600 | 50 | |
21 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:38 น. | (ครั้งที่ 7) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ