หุ้นเช้าสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 5 เม.ย.56) ปิดลบ 28 จุด กังวลการเมืองในประเทศ
โดยบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้าสุดสัปดาห์(ศุกร์ที่ 5 เม.ย.2556) ดัชนีปรับตัวในแดนลบท่ามกลางความกังวลปัญหาการเมืองในประเทศ หลังจากรัฐบาลมีความพยายามเร่งผลักดันแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ และกระแสคัดค้านการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีต่ำสุดที่ 1,498.13 จุด และปรับตัวสูงสุดที่ 1,517.25 จุด ก่อนปิดตลาดในภาคเช้าที่ระดับ 1,500.05 จุด ลดลง 28.41 จุด หรือ 1.86% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 24,537.42 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 142 หลักทรัพย์ ลดลง 460 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 105 หลักทรัพย์
สำหรับ 5 อันดับ ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในช่วงเช้านี้ ได้แก่
1. TIPCO บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 15.00บาท +0.40 (+2.74%)
2.PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 314.00บาท -6.00 (-1.88%)
3.SUSCO บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 6.50บาท -0.25 (-3.70%)
4.BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 9.05บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5.BBL ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 226.00 บาท -5.00 (-2.16%)
บทวิเคราะห์ บล. ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดเป็นบวกได้เมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) จากผลการประชุมของ BOJ ที่ออกมาดีตามคาด แต่การปรับตัวลงของตลาดหุ้นยุโรปหลังผิดหวังผลการประชุมของ ECB ที่ไม่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ออกมาเสริม และยังมีการเตือนถึงความอ่อนแอของภาวะเศรษฐกิจในยูโรโซนด้วย ทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ไม่ได้สดใสนัก โดยมีเพียงตลาดหุ้นญี่ปุ่นเท่านั้นที่ยังคงบวกแรงต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดอื่นๆ ยังผันผวนและปรับลงอยู่
ส่วนดัชนีฯของไทย ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการยุบพรรคร่วมรัฐบาลได้กดดันอยู่ และยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในคืนวันนี้ ซึ่งมีโอกาสจะออกมาไม่ดีได้ ทำให้ FSS คาดว่าหลังจาก SET มีจังหวะรีบาวด์กลับจากข่าว ป.ป.ช.ไม่ชี้มูลความผิดนายกฯ ไปเมื่อวานนี้แล้ว ก็ต้องระวังแรงขายทำกำไรก่อนติดช่วงวันหยุดยาวกดดันให้มีการปรับตัวลงอีกครั้งไว้ด้วย
กลยุทธ์ คาดว่าแนวโน้มโดยรวมดัชนีฯยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวลงต่อเนื่องอีกระยะ ดังนั้น ตลาดดีดกลับขึ้นมาจึงแนะนำให้แบ่งส่วนขายทำกำไรด้วย เพื่อรอการปรับลงใหม่ โดยส่วนที่ถือลงทุน 3-6 เดือนยังเน้นถือต่อเนื่อง แต่จะซื้อเพิ่มต้องรอให้ดัชนีปรับลงก่อน
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 10:35 น. | (ครั้งที่ 8) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ