หุ้นไทยกว่า 1,700 จุด กำลังจะกลับมา!
โดยผมไม่แน่ใจว่าผู้อ่านหลายท่านที่กำลังอ่านบทความของผมในสัปดาห์นี้ อาจจะได้เห็นดัชนีหุ้นไทยไปไกลถึง 1,560 จุด! หรือในทางกลับกันอาจเห็นดัชนีหุ้นไทยกลับลำลงต่ำกว่า 1,500 จุด (อีกครั้ง) นี่แหละครับ การลงทุนมีความเสี่ยงหลากหลายมุม แต่ที่ดูจะมั่นใจได้ชัดเจน คือ ความคึกคัก หรือภาวะกระทิงในวงการตลาดหุ้นปีนี้ จะยังคงมีสถิติให้ต้องบันทึกอีกระยะหนึ่งพอสมควร เพราะเงินท่วมโลกดอกเบี้ยไทยสูงกว่าดอกเบี้ยในตลาดสำคัญของโลก แถมแบงก์ชาติอาจทานแรงกดดันให้ต้องลดดอกเบี้ยลงอีก ยิ่งทำให้ต้นทุนเล่นหุ้นต่ำลงอีก ผมจึงอยากให้ผู้อ่านลองดูมุมองของบรรดาโบรกเกอร์ในไทยจนถึงเวลานี้ เกือบ 100% มองกระทิงดุในตลาดหุ้นไทยยังคงควบขวิดดัชนีหุ้นสูงขึ้นจากเดิมที่เคยประเมินไว้
จากการลงทุนภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกระตุ้นการบริโภคภาคประชาชนด้วยการลดภาษีบุคคลธรรมดา ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยังคงเติบโตสูงจากการบริโภคและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ค่าย บลจ.ไอเอ็นจี ประเทศไทยมองว่า กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 19.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ที่ 13.6% ก็คิดแล้วเกือบ 6% เมื่อหันมามองดัชนีหุ้น MSCI Asia ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น โดยอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือค่าพีอีของไทยในปีนี้ อยู่ที่ 10.5 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยของตลาดในภูมิภาคอยู่ที่ 10.4 เท่า จากปัจจัยทั้งหมดเชื่อว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวระหว่าง 1,524 – 1,550 จุด
ต่อมา ค่ายบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง มองว่า ตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะเป็นปีกระทิงตัวใหญ่ และเป็นปีที่มีเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นจำนวนมาก คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะมีปัจจัยบวกมาก เช่น ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับดี น่าจะทำให้ดัชนีหุ้นยังไปได้ต่อเนื่องในระดับดังกล่าวได้ โดยมองว่าจะเป็นขาขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก เพราะแรงซื้ออยู่ในตลาดเอเชียรวมถึงไทย ส่วนครึ่งปีหลังยังคงมีความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจโลก เพราะหลายประเทศจะมีการเลือกตั้ง และภาวะวิกฤติหนี้ยูโรโซนก็ยังไม่คลี่คลายในระยะสั้น พอมาถึงค่ายบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มีการปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 2556 ขึ้นเป็น 1,550 จุด จากที่เคยคาดการณ์เมื่อปลายปีก่อนไว้ที่ 1,450 จุด เท่ากับเพิ่มขึ้น 100 จุด! เนื่องจากมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ส่งผลให้ตลาดยังมีสภาพคล่อง และเงินล้นตลาดโลกต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนต้องหาที่เข้ามาลงทุน
ส่งท้ายกับค่ายบริษัทหลักทรัพย์ จัดการลงทุน ยูโอบี ไทย นับว่าเป็นค่ายล่าสุดที่กล้าปรับเพิ่มดัชนีหุ้นไทยขึ้นไปทะลุกว่า 1,600 จุด! โดยมองว่า ในปีนี้ตลาดหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุนที่สุด เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ เช่น หุ้นกู้ ทองคำ ด้วยมุมมองว่า จากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยที่ยังแข็งแกร่งเศรษฐกิจโตได้เฉลี่ย 4-5% ซึ่งยังค่อนข้างดี ความต้องการในประเทศยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลเองก็ยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 2 ล้านล้านบาท ทั้งหมดผลักดันให้เกิดการก่อสร้าง การจ้างงาน ทำให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้นนำมาสู่การบริโภคที่จะเพิ่มขึ้น ค่ายนี้ยังมองต่อไปว่า ทุกวันนี้ดอกเบี้ยในประเทศยังค่อนข้างต่ำที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยไปได้ อีกมากในอนาคต ปีนี้คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนจะโตประมาณ 17% น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสขยับขึ้นเทรดที่สัดส่วนราคาต่ำกำไรสุทธิ หรือมีค่าพีอีประมาณ 15 เท่าก็เป็นไปได้มาก โดยมีกรอบการแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1,400 – 1,600 จุด บริษัทมองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ไว้ที่ 1,650 จุด! และมองตลาดหุ้นไทยไม่น่าหลุด 1,450 จุดลงไป เพราะมีเงินลงทุนที่พร้อมจะเข้าลงทุนอยู่แล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการลงทุนมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ต้องดูข้อมูลให้ชัดเจนอย่างมากๆ ก่อนจะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกันนะครับ.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ โดย บัญชา ชุมชัยเวทย์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 43,950.00 | 44,050.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,160.52 | 44,550.00 |
วันนี้ 350 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 09:17 น. | (ครั้งที่ 2) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ