หุ้นไทยครึ่งวันเช้า(อังคารที่ 7 พ.ค. 2556) บวก 13.10 จุด ‘ซีพีออลล์’ ยังซื้อขายสูงสุด
โดยบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันนี้ (อังคารที่ 7 พ.ค. 2556 ) ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขาย ตามตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาค หลังจากที่ธนาคารกลางแต่ละประเทศประกาศใช้มาตรการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ อาทิ ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.75% ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็พร้อมที่จะปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยระหว่างการซื้อขายดัชนีได้ปรับตัวสูงสุดที่ 1,594.01 จุด และปรับลดลงต่ำสุดที่ 1,572.74 จุด
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า แนวโน้มภาคบ่ายดัชนีอาจปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจุัยเรื่องการเมืองคอยกดดันดัชนีอยู่
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปิดการซื้อขายที่ 1,592.05 จุด เพิ่มขึ้น 13.10 จุด หรือ 0.83% มูลค่าการซื้อขาย 23,490.38 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 320 หลักทรัพย์ ลดลง 264 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 147 หลักทรัพย์
ขณะที่ ราคาหุ้นของ ADVANC ได้ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดการซื้อขาย หลังจากเปิดให้บริการเครือข่าย 3G ใหม่อย่างเป็นทางการเป็นรายแรกของประเทศ โดยปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 270 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือ 1.50% มูลค่าการซื้อขาย 1,139.96 ล้านบาท
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ
1.CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 42.00 บาท +0.50 บาท (+1.20%)
2.INTUCH บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 84.75 บาท -0.50 บาท (-0.59%)
3.ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 270.00 บาท +4.00 บาท (+1.50%)
4.BBL ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 226.00 บาท +4.00 บาท (+1.80%)
5.JAS บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 8.05 บาท +0.15 บาท (+1.90%)
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดฯ ในวันนี้ ปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ทั้งในแดนบวกและแดนลบสลับกันไป เนื่องจากตลาดอยู่ในช่วงของต้นสัปดาห์และหลังวันหยุดยาว อีกทั้งตลาดยังไม่มีปัจจัยบวก-ลบออกมาอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้การซื้อขายของวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา
ส่วนหุ้นที่ได้รับความสนใจในช่วงนี้ คือ หุ้นเหล็ก เนื่องจากนักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2556 จะออกมาดี อีกทั้งหุ้นในกลุ่มนี้ยังมีประโยชน์ในด้านของการก่อสร้าง และกำลังได้รับประโยชน์จากกรณีค่าเงินบาทแข็งค่าด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายหุ้นในกลุ่มเหล็กจะยังคงได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนแน่นอน
ทั้งนี้ นักลงทุนควรจับตามอง ประเด็นที่ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินกรณีสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนยื่นฟ้องขอให้มีคำสั่ง หรือคำพิพากษาเพิกถอนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มูลค่า 3.5 แสนล้านบาท และควรจับตามองการประกาศผลไตรมาส 1/2556 ของหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ด้วย
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำนักลงทุนควรเทรดดิ้งหุ้นที่มีขนาดเล็ก ในช่วงนี้ยังไม่เหมาะกับการลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ หรือเลือกลงทุนหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 จะออกมาดี โดยให้กรอบแนวรับที่ 1,575 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,590 จุด.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:13 น. | (ครั้งที่ 12) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวหุ้น, ข่าวเศรษฐกิจ