ฮั่วเซ่งเฮงเผยค่ำนี้ติดตามรายงานการจ้างงานสหรัฐ
โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แต่ด้วยราคาที่ปรับตัวลงมามากทำให้แรงขายที่มีออกมาในการซื้อขายวานนี้เริ่มมีน้อยลง ประกอบกับรายงานตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดและการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศ ส่งผลให้ราคาทองเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัว
โดยราคาทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้(พฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2556)ที่ 1,552.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวลดลง 5.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,540 และ 1,559 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้(พฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2556) ขายออกที่บาทละ 21,550 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 21,450 บาท และทองรูปพรรณชนิด 95.6% ขายออกที่บาทละ 21,950 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 21,133.04 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 1,206.22 ตัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์มีจำนวนเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ 385,000 ราย ในขณะที่ผลสำรวจประเมินว่าจะลดลงสู่ 350,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯที่เปิดเผยว่าภาคเอกชนทั่วสหรัฐฯมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม น้อยว่าผลสำรวจซึ่งประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นราว 190,000-200,000 ตำแหน่ง ทำให้การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมีนาคม ในวันนี้เป็นปัจจัยที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง
โดยผลสำรวจคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 7.7% ส่วนผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปวานนี้ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% ต่อไป และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรปได้เปิดเผยว่าจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้เพื่อตัดสินผลกระทบที่จะมีต่ออัตราเงินเฟ้อและระบุเสริมว่า นโยบายการเงินจะยังคงผ่อนคลายตราบเท่าที่จำเป็น ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติในการประชุมวานนี้ ให้ดำเนินการเร็วขึ้นสำหรับโครงการซื้อสินทรัพย์แบบไม่จำกัด แทนที่จะเริ่มต้นในปีหน้า และขยายอายุของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่บีโอเจเข้าซื้อ รวมทั้งเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรระยะยาวสู่ระดับ 7 ล้านล้านเยน ต่อ เดือน และมีมติให้เปลี่ยนเป้าหมายในการกำหนดนโยบายการเงินไปสู่ฐานเงิน (base money) จากเดิม ที่ใช้การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเผื่อเรียกประเภทข้ามคืน ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงมาก ในการซื้อขายวานนี้ และในด้านหนึ่งเป็นปัจจัยลบกดดัน ราคาทองผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์แต่สภาพคล่องที่มีมากขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของราคาทองในช่วงนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อ โดยอาจมีการดีดตัวกลับในช่วงสั้นๆ หากสามารถปิดตลาดเหนือ 1,560-1,565 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ จึงจะเป็นสัญญาณซื้อสำหรับเก็งกำไรการฟื้นตัวที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรในระยะสั้นอยู่ที่ 1,540 และ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ อย่างไรก็ตามตลาดการเงินของไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ แต่สำหรับการซื้อขายทองคำแท่งของฮั่วเซ่งเฮงยังคงเปิดบริการตามปกติ
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,050.00 | 44,150.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,251.48 | 44,650.00 |
วันนี้ 450 | -50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 15:13 น. | (ครั้งที่ 12) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ