ฮั่วเซ่งเฮงเผยสัปดาห์หน้า(24-28 มิถุนายน) คาดราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวได้
โดยสัปดาห์นี้(17-21 มิถุนายน 56)การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่นักลงทุนจับตามอง และมีผลต่อราคาทองคำมากที่สุด สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนวันพุธ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% พร้อมยืนยันว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป และจะใช้โครงการซื้อสินทรัพย์วงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่อเดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และระบุถึงเงื่อนไขในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0% ต่อไป ตราบใดที่อัตราว่างงานยังคงยืนเหนือระดับ 6.5% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.5% สำหรับคำแถลงของเบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมนั้น เบอร์นันเก้กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) กลางปีหน้า ซึ่งอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับประมาณ 7% ทำให้ถูกแรงเทขายอย่างหนักจนหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ และลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประเด็นที่ต้องติดตามสำหรับการลงทุนทองคำในสัปดาห์หน้า(จันทร์ที่ 24-ศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2556) คือ การประชุมสุดยอดผู้นำอียู ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย และการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯและยุโรป สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำอียูคาดการณ์ว่า จะมีการหารือเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ในยูโรโซน แต่อาจจะไม่ได้มีการออกมาตรการใหม่ เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหา สำหรับตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ของสหรัฐฯต้องติดตามว่าจะต่ำกว่าที่ประมาณการครั้งที่ 2 หรือไม่ หลังจากที่ประมาณการครั้งที่ 2 ขยายตัว 2.4% สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะประกาศออกมา ถ้าออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น กดดันต่อการฟื้นตัวของราคาทองคำได้ แต่ถ้าออกมาต่ำกว่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และส่งผลบวกต่อราคาทองคำ แนวโน้มราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวได้จากแรงซื้อในแถบเอเชีย โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,270 และ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป.
ที่มาจาก : ไทยรัฐออนไลน์
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําพุ่งต่อ ทองไทยพุ่งแตะ44,000
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหนุนทองคําโลกพุ่งแรง ทองไทยขึ้นพรวด
วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคำ ทองไทยบาทแข็งกดดัน
วิกฤตสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนหนุนแรงซื้อทองคําโลกพุ่งแรง
จันทร์เช้าทองคําตลาดโลกดีดตัวขึ้นแรง ส่งผลทองไทยพุ่งแรงตาม
ดอลลาร์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยกดดันทองคําโลก
ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง ขานรับทรัมป์ชนะเลือกตั้งกดดันทองคํา
ราคาทองตามประกาศสมาคมค้าทองคำ
96.5% | รับซื้อ | ขายออก |
---|---|---|
ทองคำแท่ง | 44,150.00 | 44,250.00 |
ทองรูปพรรณ | 43,357.60 | 44,750.00 |
วันนี้ 550 | 50 | |
22 พฤศจิกายน 2567 | เวลา 17:09 น. | (ครั้งที่ 14) |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: ข่าวราคาทองคำ, ข่าวเศรษฐกิจ, วิเคราะห์ทอง, แนวโน้มราคาทอง